การเดินเที่ยวนับเป็นวิธีสำรวจเมืองที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวได้ออกกำลังกาย เปิดประสบการณ์ใหม่ และเข้าถึงวิถีชีวิตท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเดินเที่ยวชม Palm Jumeirah ซึ่งเป็นเกาะที่ถูกสร้างขึ้นให้มีลักษณะคล้ายต้นปาล์มในดูไบ หรือการเดินในเส้นทางที่มีความท้าทายมากขึ้นเช่นเส้นทางเดินบนยอดไม้ที่สูงเสียดฟ้าในสิงคโปร์ การเดินเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจเมืองใหม่ เพราะจะช่วยให้คุณได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรม ทักทายคนในท้องถิ่น และมองเห็นทุกอย่างอย่างใกล้ชิด ทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แท้จริงมากยิ่งขึ้น
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้ภาษา Preply (เพร็พลี่) แพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีผู้สอน หรือติวเตอร์กว่า 40,000 คน ที่สอนภาษา 50 ภาษา และมีผู้เรียนหลายแสนคนใน 180 ประเทศทั่วโลก เข้าใจดีว่าการเดินสำรวจเมืองยังเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การเรียนรู้และฝึกฝนภาษาใหม่ ตั้งแต่การถามทางจากคนในท้องถิ่นไปจนถึงการทักทายผู้คนที่เดินผ่านไปมา
ด้วยเหตุนี้ การศึกษาล่าสุดของเราจึงเน้นไปที่การค้นหาว่า เมืองใดในเอเชียที่เหมาะสมที่สุดในการสำรวจด้วยการเดินเท้า เราได้คำนวณระยะทางเดินทั้งหมดของแผนการท่องเที่ยวแบบหนึ่งวันในแต่ละเมือง ซึ่งประกอบด้วยสถานที่รับประทานอาหารเช้า สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม มื้อกลางวัน สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่ง และสุดท้ายคือมื้อเย็น จากนั้นเราวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อดูเวลาในการเดิน จำนวนก้าวที่เดิน และแคลอรี่ที่เผาผลาญ
ก่อนออกเดินทาง: เคล็ดลับสำคัญสำหรับการดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วยการเดิน
มีเมืองที่น่าทึ่งมากมายที่คุ้มค่าแก่การสำรวจด้วยการเดิน การเดินเที่ยวจะทำให้คุณได้มีส่วนร่วมกับวัฒนธรรมอย่างแท้จริง และยังให้ความยืดหยุ่นมากขึ้นในการตัดสินใจว่าจะทำอะไรบ้าง ต่อไปนี้คือเคล็ดลับสำคัญเพื่อให้คุณได้ประโยชน์สูงสุดจากทริปเที่ยวเมืองครั้งหน้า ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนก็ตาม
เลือกเมืองตามความเหมาะสมของคุณ
ใช้บทความนี้เป็นตัวช่วยในการวางแผนทริปในเมืองที่เหมาะสมสำหรับคุณ โดยคำนึงถึงระยะทางที่คุณสามารถเดินได้อย่างสะดวก บางทีอาจเริ่มด้วยการเดินระยะสั้นๆ ระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวหลัก หรือหากคุณพร้อมสำหรับการพักผ่อนแบบลุยๆ คุณอาจลองเดินสำรวจในเส้นทางที่มีความท้าทายขึ้น นอกจากนี้ถ้ารู้สึกเมื่อยแล้วอาจจะลองสำรวจการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อดูว่าคนในท้องถิ่นเดินทางกันอย่างไร เราเชื่อว่าบางครั้งการเดินทางก็เป็นสิ่งที่น่าจดจำไม่แพ้จุดหมายปลายทาง
เรียนรู้พื้นฐานภาษาก่อนออกเดินทาง
การเรียนรู้ภาษาท้องถิ่นให้ได้มากที่สุดก่อนเดินทางจะช่วยให้คุณดื่มด่ำกับวัฒนธรรมของเมืองนั้นได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียนภาษาจีนกวางตุ้งเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไปฮ่องกง หรือเรียนกับติวเตอร์ภาษาญี่ปุ่นก่อนเดินทางไปโตเกียว การเรียนรู้วลีพื้นฐานบางประโยคจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คุณขณะเดินสำรวจเมือง
ชาวบ้านส่วนใหญ่จะชื่นชมที่คุณพยายามสื่อสาร แทนที่จะคาดหวังให้พวกเขาพูดภาษาอังกฤษ แม้จะเป็นแค่การทักทายพื้นฐานก็ตาม Preply มีชั้นเรียนภาษาและติวเตอร์ออนไลน์นับพันที่พร้อมจะช่วยให้คุณเริ่มต้นการเรียนรู้ได้ทันที
ศึกษาขนบธรรมเนียมท้องถิ่น
การศึกษาขนบธรรมเนียมท้องถิ่นเพียงเล็กน้อยสามารถช่วยคุณได้มาก การรู้ข้อมูลเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมท้องถิ่นจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณเผลอทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม และยังช่วยให้คุณเข้าใจสิ่งที่พบเจอ รวมถึงเปิดรับโอกาสทางวัฒนธรรมได้มากขึ้น
อย่ากลัวที่จะหลงทาง
แม้ว่าการศึกษานี้จะเน้นการเดินระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารในแต่ละเมือง แต่ความสนุกของการสำรวจด้วยการเดินเท้าคือการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ที่น่าสนใจโดยไม่ตั้งใจระหว่างทาง
เผื่อเวลาไว้สำหรับการพบปะผู้คนท้องถิ่นและสำรวจตรอกซอกซอยที่น่าสนใจโดยไม่มีกำหนดการ เพียงจำไว้ว่าต้องระวังเรื่องความปลอดภัยให้ดี และอย่าลังเลที่จะถามทางหากคุณหาทางกลับไม่เจอ
เผย 15 เมืองในเอเชียที่ดีที่สุดสำหรับการสำรวจด้วยการเดินเท้า
เราได้ศึกษารายชื่อเมืองยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวในเอเชีย เพื่อดูว่า เมืองใดที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินสำรวจในหนึ่งวันด้วยจำนวนก้าวที่น้อยที่สุด ผลสำรวจเผยว่า
อันดับที่ 1 ดูไบ
ดูไบ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ติดอันดับหนึ่งในฐานะเมืองที่เดินสำรวจได้ง่ายที่สุดในเอเชีย นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวจากย่านประวัติศาสตร์อัลฟาฮิดิ (Al Fahidi) ไปยังพิพิธภัณฑ์ดูไบ (Dubai Museum) พร้อมลิ้มลองอาหารเช้า กลางวัน และเย็น โดยใช้เวลาเดินรวมเพียง 44 นาที ครอบคลุมระยะทาง 3.1 กิโลเมตร (1.9 ไมล์)
ซึ่งหมายความว่า นักท่องเที่ยวจะเดินเพียง 3,800 ก้าวในหนึ่งวันของการสำรวจ เผาผลาญพลังงานประมาณ 190 แคลอรี่ ความสะดวกนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเมืองในการเชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวหลักและสถานที่ต่าง ๆ ให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายสำหรับคนเดินเท้า
อันดับที่ 2 กรุงพนมเปญ
กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา ครองอันดับสองของเมืองที่เดินสำรวจได้ง่ายที่สุด โดยการเดินจากพระราชวังหลวงไปยังพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ พร้อมแวะทานอาหารเช้า กลางวัน และเย็น จะใช้เวลาเพียง 45 นาทีของวัน ครอบคลุมระยะทาง 3.2 กิโลเมตร (2 ไมล์)
ใจกลางเมืองที่กระทัดรัดและภูมิประเทศที่ราบเรียบของพนมเปญ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินสำรวจสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ได้อย่างง่ายดาย ปกติแล้วคุณจะเดินประมาณ 4,000 ก้าวและเผาผลาญพลังงาน 200 แคลอรี่ในหนึ่งวันของการท่องเที่ยวที่นี่
สถานที่สำคัญ เช่น พระราชวังหลวง วัดพระแก้วมรกต และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ตั้งอยู่ใกล้กันทั้งหมด นอกจากนี้ ริมฝั่งแม่น้ำโขงยังมีทางเดินที่สวยงาม ซึ่งทั้งผ่อนคลายและสะดวกต่อการเดินสำรวจ โดยมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านค้าต่าง ๆ เรียงรายตลอดเส้นทาง
อันดับที่ 3 นครโฮจิมินห์
อันดับสามคือ โฮจิมินห์ซิตี้ เมืองที่มีประชากรมากที่สุดในเวียดนาม การเดินสำรวจรอบเมืองจะใช้เวลานานกว่าพนมเปญเล็กน้อย โดยใช้เวลา 46 นาที ครอบคลุมระยะทาง 3.4 กิโลเมตร (2.1 ไมล์) คุณจะเดินประมาณ 4,200 ก้าว และเผาผลาญพลังงาน 210 แคลอรี่ เมืองนี้มีโครงสร้างที่กระทัดรัดและถนนที่เชื่อมต่อกันดี จึงเป็นจุดหมายที่น่าพึงพอใจสำหรับผู้ที่ต้องการใช้การเดินเป็นวิธีหลักในการเดินทาง
อันดับที่ 4 เยเรวาน
เยเรวาน เมืองหลวงของอาร์เมเนีย ครองอันดับสี่ โดยใช้เวลาประมาณ 52 นาทีในการเดินระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวในหนึ่งวัน ครอบคลุมระยะทาง 3.7 กิโลเมตร (2.3 ไมล์) กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เดิน 4,600 ก้าว และเผาผลาญพลังงาน 230 แคลอรี่ โดยเขตสำหรับคนเดินเท้าและป้ายบอกทางที่ชัดเจนทำให้การสำรวจเมืองนี้เป็นไปอย่างเพลิดเพลินและไม่ซับซ้อน
อันดับที่ 5 สิงคโปร์
สิงคโปร์ เมืองที่มีชีวิตชีวา ซึ่งใช้เวลาเดินเพียง 66 นาทีตลอดทั้งวัน ครอบคลุมระยะทาง 4.7 กิโลเมตร (2.9 ไมล์) รวมเป็นก้าวประมาณ 5,800 ก้าว และเผาผลาญพลังงาน 290 แคลอรี่ สิงคโปร์เป็นที่รู้จักในด้านการวางผังเมืองที่ยอดเยี่ยม การเดินสำรวจเมืองนี้จึงเป็นประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจด้วยทางเดินที่มีหลังคา สะพานคนเดิน และพื้นที่สีเขียวมากมาย
สำหรับประเทศไทย เมืองที่มีทีเส้นทางเดินที่เหมาะกับการเดินสำรวจคือ เชียงใหม่ และกรุงเทพมหานคร ที่ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 7 และ 8 โดยมีระยะทางสำหรับการเดินประมาณ 5.1 กม และใช้เวลาในการเดินประมาณ 70 นาที รวมเป็นก้าวประมาณ 6,400 ก้าว และเผาผลาญพลังงาน 320 แคลอรี่
ในการทำการสำรวจครั้งนี้ https://preply.com/ ได้รวบรวมเมืองในเอเชียจำนวน 30 เมือง โดยใช้ AI เพื่อค้นหาแผนการเดินเที่ยวแบบจำลองสำหรับแต่ละเมือง โดยเป็นการออกแบบการเดินให้เริ่มจากสถานที่มีร้านอาหารสำหรับแต่ละมื้อสลับกับสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่ง เพื่อให้เห็นการแพลนการเดินทางได้อย่างสมบูรณ์แบบในแต่ละวัน
ซึ่งโดยโครงสร้างและขนาดของเมืองแล้ว เมืองในเอเชียมีขนาดใหญ่กว่าและมีแหล่งท่องเที่ยวกระจายตัวอยู่ไกลกันมากกว่าเมืองในภูมิภาคอื่นๆ ทำให้มีระยะทางที่ไกลกว่า
การคำนวณระยะทางทั้งหมดใช้ในหน่วยไมล์ และเปลี่ยนเป็นเวลาที่ใช้ในการเดิน โดยใช้ Google Maps โดยคำนวนจากค่าเฉลี่ย 2,000 ก้าว เท่ากับ 1 ไมล์ และการเดิน 1 ไมล์เผาผลาญพลังงานประมาณ 200 แคลอรี