แอนดี้ โอกลีทรี โปรกอล์ฟฟอร์มแรงชาวอเมริกัน ตั้งเป้าทำผลงานดีต่อเนื่องในการแข่งขันกอล์ฟเอเชียนทัวร์ รายการ “อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 68 ล้านบาท ประชันเหล่านักกอล์ฟชั้นนำของทัวร์และผู้เล่นแถวหน้าของไทย ซึ่งจะแข่งขัน ณ สนามแบล็คเมาน์เท่น กอล์ฟคลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในสัปดาห์หน้า
สำหรับการแข่งขันรายการ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ จัดขึ้นเป็นครั้งที่สอง โดยมีนักกอล์ฟมือท็อป 6 คน จาก 7 อันดับแรกของตารางทำเงินรางวัลสะสมเอเชียนทัวร์ หรือเอเชียนทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต ยืนยันเข้าร่วมล่าแชมป์และเงินรางวัลรวมที่เพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ จากเดิม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 2 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ โดยจะแข่งขันระหว่างวันที่ 9-12 มีนาคมนี้ ซึ่งเป็นรายการที่ 5 ของเอเชียนทัวร์ ฤดูกาล 2023 และเป็นรายการที่ 3 ของอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ต่อจากโอมาน และกาตาร์
ด้านแอนดี้ โอกลีทรี โปรกอล์ฟชาวอเมริกัน ที่เพิ่งคว้าแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ กาตาร์ เมื่อสองสัปดาห์ก่อน หวังจะรักษาฟอร์มดีได้อย่างต่อเนื่องเพื่อครองตำแหน่งนักกอล์ฟทำเงินรางวัลสูงสุด เป็นมือหนึ่งของเอเชียนทัวร์ พร้อมตำแหน่งแชมป์ทำเงินรางวัลของอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต ซึ่งจะได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปแข่งขันในลิฟ กอล์ฟ ลีก โดยอัตโนมัติ
โปรกอล์ฟวัย 24 ปี กล่าวถึงเป้าหมายในฤดูกาลนี้ว่า “การครองแชมป์ทำเงินรางวัลสูงสุดหรือออร์เดอร์ ออฟ เมอริต คือเป้าหมายอันดับ 1 ของผมในปีนี้ นั่นคือสิ่งที่ผมโฟกัส แต่ก็ไม่รู้ว่าจะสามารถขยับอันดับได้สูงขึ้นอีกแค่ไหน”
ทั้งนี้ในการแข่งขัน 3 รายการแรกของเอเชียนทัวร์ ในฤดูกาล 2023 โอกลีทรี ทำผลงานจบอันดับ 9 ในรายการพีไอเอฟ ซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนล พาวเวอร์ดบาย ซอฟท์แบงก์ อินเวสต์เมนท์ แอดไวเซอร์ส ตามด้วยอันดับ 7 ร่วมรายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ โอมาน จากนั้นมาคว้าแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ กาตาร์ ที่สนามโดฮา กอล์ฟคลับ โดยใน 6 รายการหลังสุดของเขา สามารถจบใน 10 อันดับแรก 4 รายการและคว้าแชมป์ 2 รายการ
ความสำเร็จในการคว้าแชมป์ที่กาตาร์ ทำให้โอกลีทรีกลายเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่ได้แชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ 2 รายการ หลังจากชนะเลิศรายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ที่อียิปต์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
สำหรับการแข่งขันที่สนามแบล็คเมาน์เท่น ในอีกสัปดาห์ข้างหน้า โอกลีทรีลุ้นทำสถิติคว้าแชมป์อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ รายการที่ 3 ซึ่งเป็นการการลงเล่นในเวทีเอเชียนทัวร์รายการที่ 10 ของเขา แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีคู่แข่งฝีมือดีระดับแชมป์เอเชียและเวทียุโรปร่วมชิงชัยคับคั่ง นำโดย สดมภ์ แก้วกาญจนา นักกอล์ฟมือหนึ่งของไทย มืออันดับ 75 ของโลก, นิติธร ทิพย์พงษ์ และ แจ๊ส-อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ รวมถึง พชร คงวัดใหม่ ซึ่งทำผลงานหวด 24 อันเดอร์พาร์ จบที่อันดับสอง ตามหลัง ซีวาน คิม แชมป์ชาวอเมริกัน 2 สโตรกเมื่อปีที่แล้ว
ทางด้านกัญจน์ เจริญกุล ซึ่งได้รองแชมป์ที่กาตาร์ ยืนยันจะร่วมชิงชัยที่หัวหินเช่นกัน รวมถึงสองโปรกอล์ฟชาวสวีเดนที่ได้รับการสนับสนุนจากสนามแบล็คเมาน์เท่นอย่าง โยฮัน เอ็ดฟอร์ดส์ และริคาร์ด คาร์ลเบิร์ก โดยเอ็ดฟอร์ดส์ หลังจากคว้าแชมป์รายการแบล็คเมาน์เท่น มาสเตอร์ส ในปี 2009 เขาได้ซื้อวิลล่า ณ สนามแห่งนี้ และมาใช้บริการเป็นประจำ
ทั้งเอ็ดฟอร์ส และคาร์ลเบิร์ก เป็นผู้เล่นที่คุ้นเคยกับสนามแบล็คเมาน์เท่น มีโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ เช่นเดียวกับ โปรแจ๊ส, บียอร์น เฮลเกรน และเซบาสเตียน โซเดอร์เบิร์ก จากสวีเดน รวมถึงแบร์รี่ เฮนสัน รองแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ โอมาน
ขณะที่โปรกอล์ฟจอมเก๋าชื่อดังของไทยและดาวดังเอเชียนทัวร์อย่าง ถาวร วิรัตน์จันทร์, ประหยัด มากแสง, ชัพชัย นิราช จะร่วมชิงชัยในสัปดาห์หน้าด้วยเช่นกัน รวมถึง โจวติ รันดาวา และจีฟ มิลก้า ซิงห์ สองนักกอล์ฟจากอินเดีย เหลียง เหวินซอง จากจีน, มาร์ดาน มามัต จากสิงคโปร์, แองเจโล่ เค จากฟิลิปปินส์ และมาร์คัส เฟรเซอร์ จากออสเตรเลีย
นอกจากนี้ยังมีนักกอล์ฟสมัครเล่นคนดังของไทยอย่าง ทีเค-รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ ร่วมแข่งขันเป็นปีที่สอง โดยผลงานเมื่อปีที่แล้ว ทีเค จบอันดับ 11 ร่วม และหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ก็ประกาศศักดาคว้าแชมป์รายการ ทรัสต์ กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ คัพ กลายเป็นนักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดที่ชนะเลิศรายการเอเชียนทัวร์ในวัย 15 ปี 37 วัน