ปิดฉากเพาะกายชิงแชมป์เอเชีย ไทยได้เพิ่มอีก 1 เงิน 1 ทองแดง โดย 1 เงินมาจาก “อาร์ม” อภิชัย วันดี เจ้าของเหรียญทองจากกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ทำให้นักเบ่งกล้ามชาย ได้แค่ที่ 2 ของถ้วยคะแนนรวมทีมชาย
การแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 54 ที่ เกาะมาฟูชิ สาธารณะรัฐมัลดีฟส์ เป็นการแข่งขันวันสุดท้าย ซึ่งทีมเพาะกายทีมชาติไทย ลงสนามแข่งขัน เพื่อไล่ล่าชิงเหรียญทอง
ปรากฏว่า ทีมนักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทยทำผลงานได้ยอดเยี่ยม เก็บพิ่มมาอีก 1 เหรียญเงินจาก “อาร์ม” อภิชัย วันดี เจ้าของเหรียญทองจากกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ในประเภทเพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 85 กิโลกรัม โดยเหรียญทองเป็นของนักกีฬาจากประเทศอินเดีย
และอีก1เหรียญทองแดงที่นักกีฬาไทยทำได้จากประเภทเพาะกาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 80 กิโลกรัมโดย ผไทวัฒน์ เอกลวัฒน์ ส่วนเหรียญทองเป็นของอินเดียและเหรียญเงินเป็นของเนปาล
ทำให้ในวันสุดท้าย แม้จะไม่ได้เหรียญทอง แต่ได้มาอีก 1 เงิน 1 ทองแดง
สรุปผลการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 54 ที่ เกาะมาฟูชิ สาธารณะรัฐมัลดีฟส์ ทัพนักกีฬาเพาะกายและฟิตเนสทีมชาติไทยทำผลงานได้ 9 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง โดยอันดับที่ 1 เป็นของอินเดียได้ 13 เหรียญทอง 16 เหรียญเงิน 10 เหรียญทองแดง
สำหรับถ้วยรางวัลคะแนนรวมทีมหญิงอันดับที่ 1 เป็นของประเทศไทย อันดับที่ 2 เวียดนามอันดับที่ 3 มองโกเลีย
ส่วนถ้วยรางวัลคะแนนรวมทีมชาย ไทยได้อันดับที่ 2 ส่วนที่ 1 เป็นของอินเดีย และอันดับที่ 3 เป็นของอิหร่าน
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลงานของทัพนักกีฬาไทยในการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 54 ที่ เกาะมาฟูชิ สาธารณะรัฐมัลดีฟส์ ครั้งนี้ นักกีฬาไทยยังคงทำผลงานได้เป็นไปตามเป้าหมายใน ถึงแม้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทีมนักกีฬาเพาะกายและฟิตเนสทีมชาติไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในระดับชิงแชมป์เอเชียเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส (โควิด-19) แต่สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทยก็ยังคงสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องมา
“และจากผลงานของทัพนักกีฬาไทยในครั้งนี้ทางสมาคมฯ จะเตรียมนักกีฬาชุดนี้ทั้ง 22 คนเก็บตัวฝึกซ้อมต่อเนื่องเพื่อส่งเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก 2022 ที่ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันในระหว่างวันที่ 6-12 ธันวาคม 2565 ที่ จังหวัดภูเก็ตต่อไป”