สมาคมกีฬาเพาะกายไทย ปลื้มความสำเร็จของทีมเบ่งกล้ามไทย ที่ ได้ 6 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง จากการแข่งขันกีฬาเพาะกายชิงแชมป์อาเซียน ที่เมืองบาตัม อินโดนีเซีย ถือว่าทำผลงานได้น่าพอใจ แม้จะต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 7 ทอง แต่นักกีฬาหลายคนมีพัฒนาการที่ดี พร้อมเตรียมส่งลุยศึกเอเชียต่อในเดือนก.ย.ที่ เนปาล ต่อไป
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับ ในปีนี้ แมตช์นานาชาติที่ทางสมาคมฯ ส่งนักกีฬาไปแข่งขัน ได้แก่ การแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 17 ที่ โรงแรมแปซิฟิคพาเลส เมืองบาตัม ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งนักกีฬา เพาะกายไทย สามารถคว้ามาได้ 6 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง ถึงแม้จะไม่ได้ตามเป้าหมาย ที่ตั้งไว้ 7 เหรียญทองก็ตาม ก็ถือว่านักเพาะกายของไทยทำผลงานได้ดี
สำหรับรายการนี้ จัดขึ้นมาทดแทนการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา เจ้าภาพ ได้ตัดกีฬาเพาะกายออก แต่เพื่อการพัฒนาของชาติต่างๆ ในอาเซียน จึงได้จัดรายการนี้ ขึ้นมาแทน ซึ่งรายการนี้จะมีแข่งขันเป็นประจำทุกๆ ปี ในช่วงที่ไม่มีการแข่งขันซีเกมส์ ก็จะมีการแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนเป็นประจำทุกๆ ปี อยู่แล้ว
ถือได้ว่า การแข่งขันรายการนี้ นักกีฬาเพาะกาย แต่ละประเภททำผลงานได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ประเภท เพาะกายชาย, โมเดลฟิสิคหญิง, แอธเลติกฟิสิคชาย-หญิง, สปอร์ตฟิสิคชาย ถึงแม้ว่านักกีฬาบางคนเพิ่งติดทีมชาติเป็นครั้งแรกก็ตาม แต่ละคนต่างทำผลงานได้ดี บางคนก็มีพัฒนาการที่ดีมากๆ
ส่วน รายการต่อไป ที่ทางสมาคมฯ จะส่งนักกีฬาไปแข่งขัน ได้แก่ ชิงแชมป์เอเชีย ที่เนปาล ในระหว่างวันที่ 1-7 กันยายน 2566 ซึ่งคาดว่านักเพาะกายของไทยจะต้องทำผลงานได้ดีคว้าเหรียญทอง ได้ตามเป้าหมายที่ทางสมาคมฯ ตั้งไว้ และสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยไม่แพ้ทุกรายการที่ทางสมาคมฯ ส่งนักกีฬาไปแข่งขัน
นอกจากนี้ ใน การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีวาระสำคัญคือ การเลือกตั้ง ประธานสหพันธ์ฯ ปรากฏว่า นายภูมิวรินทร์ ชุณหะวงษ์วริศ ที่ปรึกษาสมาคมฯ ยังได้รับความไว้วางใจจากชาติสมาชิกในอาเซียน 17 ชาติ ลงคะแนนเสียงเลือกให้เป็นประธานสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นสมัยที่ 2 ถือว่าได้รับเลือกเป็นประธานฯ ต่อไปอีกสมัยด้วย คะแนนเสียงท่วมท้น
การเดินทางไปแข่งขันรายการนี้ ทางสมาคมฯ ขอขอบคุณสายการบินไทยแอร์เอเชียในโอกาสที่ทางสายการบินได้ร่วมอำนวยความสะดวกให้กับคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ในการเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ อีกด้วย
สรุปผลแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 17 ที่ไทยได้ 6 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง
โดย 6 เหรียญทอง มาจาก แอธเลติคฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 167 ซม. เดชณรงค์ ประเทศ, แอธเลติคฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 182 ซม. กองพล ทองสุข, โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม. ดลพร แทนบุญไพรัช, โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงเกิน 165 ซม. วดีฑารัศมิ์ ทูลธรรม, เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 75 กก. อรรคเดช ปลีนารัมย์, เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักเกิน 80 กก. นัทธวัฒน์ ศรีบุรีรักษ์
3 เหรียญเงิน มาจาก แอธเลติคฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 160 ซม. นำพล ตะวังทัน, สปอร์ตฟิสิคชาย รุ่นความสูงเกิน 175 ซม. เจษฎา อรุณวิจิตร, แอธเลติคฟิสิคหญิง รุ่นความสูงเกิน 160 ซม. พิมภัสสร ศิรินภาเกียรติ์
4 เหรียญทองแดง มาจาก สปอร์ตฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 175 ซม. ทศพล ชื่นชม, เพาะกายชายรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 80 กก. ไพรัช พะเนาว์ศรี, เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 55 กก.เกษม รัตนพร
ส่วน อันดับ 4 เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 60 กก. เอกรัตนฺ์ ศรีโสภา, เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 70 กก. ก้องทิตย์ วรเจริญธนกุล, ประเภทมิกซ์แพร์ (คู่ผสม) ไพรัช พะเนาว์ศรี และ พิมภัสสร ศิรินภาเกียรติ์
อันดับ 5 แอธเลติคฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 160 ซม. จุฑามาส ปัดถา, สปอร์ตฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม. ณัฐนันท์ พรหมภูวงศ์
ด้านรางวัลชนะเลิศถ้วยคะแนนรวม ไทยได้รางวัล ดังนี้ รางวัลถ้วยคะแนนรวมทีมชายยอดเยี่ยม ทีมชายของไทย ได้อันดับที่ 2 เช่นเดียวกับ รางวัลถ้วยคะแนนรวมทีมหญิงยอดเยี่ยม ทีมหญิงของไทยได้อันดับที่ 2 เช่นกัน
