“เดย์” กิตติศักดื์ วุฒิการณ์ รองแชมป์โลกปี 2019 จากชมรมเพาะกายสมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่ คว้าแชมป์เพาะกายชาย น้ำหนักเกิน 75 กก. เช่นเดียวกับ เกษม ศิริโสตร์ ทีมชาติจากนาร์แล็บ ได้แชมป์เพาะกายชาย รุ่นมาสเตอร์อายุ 50 ปี ขึ้นไป ด้วยการเอาชนะเพื่อนร่วมทีมชาติ สาคร มาตรวังแสง แชมป์โลก 4 สมัยจากทีมเดียสกัน นาร์แล็บ ได้ที่ 2 และ สุวิจักขณ์ พินทุสรชัย แชมป์เอเชีย ปี 2019 ที่อินโดนีเซียจาก โพส ฟิตเนส ได้ที่ 3
การแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสรายการ “ปักษ์ใต้คลาสสิค” (ไทยแลนด์เซาเทิร์นบอดี้บิวดิ้งแชมเปี้ยนชิพ 2022) ซึ่งเป็นสนามที่ 4 ของ “โรดทูมิสเตอร์ไทยแลนด์” ประจำปี 2023 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ บริเวณหน้าสุราษฎร์ธานีฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลสุราษฎร์ธานี เป็นการแข่งขันวันที่ 2 โดยมีคณะกรรมการบริหารสมาคมกึฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ร่วมมอบรางวัลให้แก่นักกีฬา นำโดย รองศาสตราจารย์ วิสูตร กองจินดา อุปนายก, นายธวัช ศิริศรี กรรมการบริหารและนายทะเบียน, นายพลภัทร เขตโพธิ์ทอง กรรมการบริหารและเหรัญญิก, นายอำพล พานิชวัฒนา เลขานุการสำนักงานนายกสมาคมฯ และ ดร.พีท อุทยารัตน์ อนุกรรมการวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและกีฬา สภากรุงเทพมหานคร
ในการแข่งขันวันที่ 2 มีชิงเหรียญทอง 8 รุ่น จากเพาะกายชาย โมเดลฟิสิคหญิง และสปอร์ตฟิสิคหญิงที่แข่งเป็นครั้งแรก
ผลการแข่งขันในวันที่ 2 มีดังนี้
เพาะกายชาย รุ่นมาสเตอร์อายุ 50 ปี ขึ้นไป ที่มีทีมชาติลงชิงชัยถึง 3 คน โดยแชมป์ตกเป็นของ เกษม ศิริโสตร์ (นาร์แล็บ) ทีมชาติ แชมป์ “ไทยแลนด์ มัสเซิล แอนด์ ฟิสิค แชมเปี้ยนชิพ 2022” ที่ 2 สาคร มาตรวังแสง แชมป์โลก 4 สมัย(นาร์แล็บ) ที่ 3 สุวิจักขณ์ พินทุสรชัย (โพส ฟิตเนส) แชมป์เอเชีย ปี 2019 ที่อินโดนีเซีย ที่ 4 อนุ บุญต้อง (ค่ายเพาะกาย จ.จันทบุรี) ที่ 5 ภาคิน ภูบดีอัคคเดช (ศรีสงครามยิม)
เพาะกายชาย น้ำหนักเกิน 75 กก. ที่มีอดีตทีมชาติ 2 คนลงชิงความแข็งแกร่ง มี “เดย์” กิตติศักดื์ วุฒิการณ์ (ชมรมเพาะกายสมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่) รองแชมป์โลกปี 2019 คว้าแชมป์ และ วิชิต สิงห์ทอง อดีตทีมชาติรุ่นเก่า (นาร์แล็บ) ได้ที่ 3 ส่วนที่ 2 ณธกร อาบสุวรรณ์ (นัมเบอร์วันยิม) ที่ 4 วีระ อันธิชัย (นาร์แล็บ) ที่ 5 แดดดี้ วัวออริเนน (ฟินแลนด์)
เพาะกายเยาวชนชายอายุไม่เกิน 21 ปี รุ่นทั่วไป ที่ 1 ณัฐกานต์ ณ พายัพ (อัลตร้าโปร) ที่ 2 จิระภัทร สถิตกิตพิเชษฐ์ (อัลตร้าโปร) ที่ 3 จิรายุ ชุมสวัสดิ์ (พัทลุงยิม)
เพาะกายชาย น้ำหนักไม่เกิน 65 กก. ที่ 1 ภวันดร สังห์ทอง (พัทลุง ยิม) ที่ 2 เดชชนะ ดับทุกข์ (ศรีสงครามยิม) ที่ 3 แหลม วงสิกา (ลาว) ที่ 4 วัชรินทร์ ดำใส (ชมรมเพาะกายและฟิตเนส จ.ภูเก็ต) ที่ 5 สมพงศ์ สนน้อย (สมาคมกีฬาจ.ปัตตานี)
เพาะกายชาย น้ำหนักไม่เกิน 75 กก. ที่ 1 อรรคเดช ปลีนารัมย์ (กายวี่) แชมป์ปักษ์ใต้คลาสสิคปีที่แล้วที่ภูเก็ต ที่ 2 วิชญ์พล เวชกิจ (ชมรมเพาะกายสมาคมกีฬา จ.เชียงใหม่) ที่ 3 ธวิทย์ พวงเพชร (ค่ายเพาะกายจ.จันทบุรี) ที่ 4 ก้องทิตย์ วรเจริญธนกุล (ยิมพี่ก้อง) ที่ 5 ปัญญวัต อ่อนรักษ์ (ศรีสงครามยิม)
โมเดลฟิสิคหญิง ความสูงไม่เกิน 164 ซม. ที่ 1 ยุพาพร สืบสวน (ชมรมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสจ.นครปฐม) ที่ 2 กนกอร ทองโอ (ช้างยิมโคราช) ที่ 3 จีรนันท์ สุรันต์ (แอคไลฟ์ทีม) ที่ 4 พาขวัญ กิ้มเส้ง (สมาคมกีฬาจ.ปัตตานี) ที่ 5 ปารวี ทองสง (พัทลุงยิม)
โมเดลฟิสิคหญิง ความสูงเกิน 164 ซม.ที่ 1 สุวรรณา สุขทั่ว (ไฮยิม) ที่ 2 ชนิภรณ์ แก้วโชติ (วัน มอร์ ยิม) ที่ 3 สิริวัฒนา สุดลาภา (กายวี่) ที่ 4 ภัคธีมา ธัญญเฉลิม (โพสต์ฟิตเนส) ที่ 5 อุทุมพร โตสุข (ทีเอ็มที โปรสปอร์ต)
สปอร์ตฟิสิคหญิง รุ่นทั่วไป ที่ 1 นภัสนันท์ หัวรักกิจ (นาร์แล็บ) ที่ 2 จิรภรณ์ เที่ยงธรรม (ไฮยิม) ที่ 3 สุดาภรณ์ เบอร์แมน (ชมรมเพาะกายและฟิตเนส จ.ภูเก็ต) ที่ 4 อรวรรณ รักขาว (ชมรมเพาะกายและฟิตเนส จ.ภูเก็ต) ที่ 5 นาตาชา หลุยส์ มานนท์ ชาวสก็อตแลนด์ (พัทลุงยิม)
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับ “ปักษ์ใต้คลาสสิค” ถึงแม้จะมาใช้สนามแข่งขันที่เซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี เป็นครั้งแรก แต่ก็ถือว่าได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากชาวใต้ และจังหวัดต่างๆ ทุกภูมิภาค
“นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ยังจะหานักกีฬาที่ทำผลงานได้ดีจากรายการนี้ เป็นตัวแทนไปแข่งขันชิงแชมป์โลก เพิ่มอีกบางคน เพื่อเสริมทัพนักกีฬาทีมชาติที่ตอนนี้ทางสมาคมฯ เรียกเก็บตัวอยู่แล้ว โดยชิงแชมป์โลกที่ไทยเป็นเจ้าภาพที่ภูเก็ต จะมีแข่ง 43 รุ่น เราตั้งใจจะส่งแข่งให้ครบทุกรุ่น”