กรมวิชาการเกษตร จัดงานแถลงข่าวประกาศจัดงาน “Thailand Best Coffee Beans” อย่างเป็นทางการ กับการประกวดหาสุดยอดกาแฟไทยประจําปี 2567 เชิญชวนให้เกษตรกรทั่วประเทศไทยผู้ปลูกกาแฟได้ร่วม เป็นส่วนหนึ่งในการคิดค้นและพัฒนาเมล็ดกาแฟจากประเทศไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล ถือเป็นการดําเนินงานตามพระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมได้รับพระราชทานถ้วยรางวัล จาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงประทานรางวัล ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 4 ซึ่งในปีนี้เพิ่มความพิเศษกว่าปีที่ผ่านมา โดยแบ่งการประกวดออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- ประเภทการประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟไทย (Thailand Best Coffee Beans)
- ประเภทการประกาศการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสําหรับสวนกาแฟเพื่อความยั่งยืนตามหลักการ เกษตรเชิงฟื้นฟู (GAP & Regenerative)
และในการประกวดที่จัดขึ้นครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก โทมัส อามีลูท ผู้เชี่ยวชาญด้านการรับรองคุณภาพกาแฟ และอาจารย์ผู้สอนจากทีม Q Project ผู้มีประสบการณ์ในการตัดสินการแข่งขันกาแฟในระดับนานาชาติ และ ยังรับหน้าที่เป็นหนึ่งในกรรมการตัดสินการประกวดหาสุดยอดกาแฟไทยประจําปี 2557 โดยคุณโทมัสมีความ ชํานาญในการกําหนดและปรับปรุงมาตรฐานที่ได้การรับรองในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ใน การฝึกอบรมจากคอร์สเรียนที่ได้รับการรับรองจากสถาบันคุณภาพกาแฟและสมาคมกาแฟพิเศษ
รพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า “งาน Thailand Best Coffee Beans เป็น อีกหนึ่งเวทีที่จัดขึ้นเพื่อตอกย้ําการพัฒนาเมล็ดพันธุ์กาแฟไทยให้ไปสู่ระดับสากล เพราะในปีนี้ผู้ชนะจะได้มีโอกาสไปโรดโชว์ในงานกาแฟระดับโลกที่ประเทศไต้หวัน เพื่อแสดงศักยภาพและยังเป็นการมุ่งเน้นพัฒนาเมล็ด พันธุ์กาแฟไทยไปอีกขั้น และอีกหนึ่งไฮไลต์สําคัญของปีนี้คือ การเพิ่มการประกวดปฏิบัติการทางการเกษตร ขึ้นมา เพื่อช่วยสนับสนุนการเพาะปลูกกาแฟจากเกษตรกร หรือกลุ่มเกษตรกรชาวไทยให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ทั้ง ยังพัฒนาศักยภาพห่วงโซ่ของการผลิตกาแฟไทยให้มีมาตรฐานพร้อมก้าวเข้าสู่ตลาดโลก โดยเรามุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากาแฟไทยทุกเม็ดจะเป็นกาแฟที่รักษ์โลก จากกรรมวิธีการปลูกที่ไม่ทําลายป่า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและ เกิด Carbon footprint ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถือเป็นอีกหนึ่งรางวัลแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยสร้างการรับรู้และอัตลักษณ์ของกาแฟไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในระดับประเทศและยกระดับสู่เวทีโลก”
ผอ. ธงชัย คําโคตร ผู้อํานวยการสถาบันวิจัยพืชสวน กล่าวเสริมว่า “การประกวดครั้งนี้ถือเป็นการ ส่งเสริมและยกระดับกาแฟที่เป็นพืชเศรษฐกิจจากประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และยังถือเป็นการสืบสาน รักษา ต่อยอดตามแนวพระราชดําริ นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเพิ่มพื้นที่ปลูกกาแฟคุณภาพมาตรฐานตาม หลักการเกษตรเชิงฟื้นฟู และช่วยลดปัญหา PM 2.5 ในภาคการเกษตรไทยอีกด้วย”
ภายในงานยังมีผู้เข้าประกวดจากปีที่ผ่านมาร่วมพูดคุยถึงการประกวด รวมถึง คุณกอล์ฟ-สุรัมภา หยกโชติสกุล ตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบกาแฟไทย กล่าวว่า “สําหรับเรารู้สึกประทับใจในการจัดงานนี้มาก เลยค่ะ เพราะเวลาที่ดื่มกาแฟเราจะมองไปแค่เรื่องรสชาติเป็นหลัก แต่พอมาวันนี้ได้มีโอกาสฟังทั้งฝั่งผู้เข้าประกวดและผู้ตัดสิน ทําให้รู้ว่า กาแฟไทยคือมีเสน่ห์ในตัวเองมาก ก่อนเข้างานมาได้มีโอกาสชิมกาแฟทางด้านหน้าคือชอบมากๆ กอล์ฟเชื่อว่าคอกาแฟหลาย ๆ คนถ้าได้มาอยู่ตรงนี้ก็คงอยากจะได้ลองกาแฟไทย แน่นอน ยินดีมากเลยค่ะที่ได้มาร่วมงานที่ให้ความสําคัญต่อกาแฟที่นับเป็น soft power ของไทยได้ ต่อจากนี้ ไปถ้าเห็นกาแฟร้านไหนที่ใช้กาแฟที่มีรางวัลนี้รองรับก็ยิ่งทําให้อยากชิมขึ้นไปอีกแน่นอนค่ะ อยากเชิญชวนพี่ๆ น้องชาวเกษตรกรมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนกาแฟไทยสู่สากลครั้งนี้ไปด้วยกันเยอะๆ นะคะ”
การประกวดสุดยอดกาแฟไทย “Thailand Best Coffee Beans” สําหรับผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัล พระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรง พระราชทานรางวัลต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 พร้อมเงินรางวัลสูงสุดถึง 100,000 บาท รวมเงินรางวัลทั้งรายการกว่า 700,000 บาท นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ติดตามตลอดทั้งการแข่งขัน ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียด และกติกาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Hits://www.doa.go.th และสามารถส่งใบสมัครได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 7 มิถุนายน 2567