ความเคลื่อนไหวศึก “AFF Futsal Championship 2022” ฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน ก่อนลงเตะนัดสุดท้ายวันที่ 10 เม.ย.65 นี้ ที่อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก จะโปรแกรมลงแข่งขันทั้งหมด 2 คู่ คู่แรก เวลา 14.30น. รอบเพลย์ออฟชิงอันดับ3 ระหว่าง เมียนมา พบ เวียดนาม เป็นการชิงโควต้าสุดท้ายฟุตซอลเอเชียนคัพที่คูเวต และ คู่ชิงชนะเลิศ ลงเตะเวลา 17.00น. ฟุตซอลไทย ป้องกันแชมป์สมัยที่ 16 พบกับ อินโดนีเซีย ถ่ายทอดสดทางช่อง T SPORTS 7 และช่อง 9 MCOT HD
ล่าสุดฝ่ายจัดการแข่งขันโดย “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานอำนวยการจัดการแข่งขันศึก “AFF Futsal Championship 2022” เผยข่าวดี ในการแข่งขันวันสุดท้ายจะมีการขยายโซนที่นั่งจากเดิม เปิดให้เข้าชม 1,300 คน เพิ่มเป็น 2,000 คน เพื่อให้แฟนบอลเข้ามาชมเกมได้มากขึ้นและให้กำลังทีมฟุตซอลทีมชาติไทยในรอบชิงชนะเลิศ โดยกฎกติกาการเข้าชมเกมในสนาม จะต้องมีการตรวจ ATK หน้าสนาม อุปกรณ์ในการตรวจ และ เจ้าหน้าที่ จะรวมอยู่ในค่าบัตรเข้าชม ซึ่งจะมีราคาบัตรใบละ 200 บาท สามารถเข้าชมเกมได้ทั้ง 2 คู่ จะมีการเปิดขายบัตรก่อนการแข่งขันคู่แรก เป็นเวลา 2 ชั่วโมง (เวลา 12.30น.) และแนะนำให้มาก่อนจะเข้าชมเกมล่วงหน้าเพื่อความสะดวก เนื่องจากขั้นตอนในการตรวจ ATK ต้องใช้เวลา
สำหรับ ความพร้อมเจ้าถิ่น”โต๊ะเล็กช้างศึก” ฟุตซอลทีมชาติไทย ผลงาน 5 ที่ผ่านมา ชนะ บรูไน 13-0 ,ชนะ กัมพูชา 16-0 ,เสมอ อินโดนีเซีย 2-2 ,ชนะ มาเลเซีย 4-2 และ ชนะ เวียดนาม 3-1 ในรอบรองชนะเลิศ ทำให้ยิงรวมไปแล้ว 38 และ เสีย 5 ประตู ล่าสุด วันที่ 9 เม.ย. คาร์ลอส เซซาร์ กุนซือชาวสเปน ปล่อยนักเตะพักไม่มีการฝึกซ้อมมีเพียงการเข้าฟิตเนสอบอุ่นร่างกายและประชุมทีมสเกาท์ก่อนเกม ที่โรงแรมโกเด้นทิวลิป
โดยโค้ชเซซาร์เผยก่อนเกมว่า “เราเคารพคู่ต่อสู้ทุกๆแมตซ์ กับอินโดนีเซียคู่ต่อกรของเราในเกมนัดชิง เขาสร้างปัญหาให้เราในเกมแรกที่เจอกันมา เขารู้ถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของเรา เขาเป็นทีมที่แข็งมากๆ เราจะพยายามเล่นตามแผนที่เราตั้งใจไว้เพื่อเอาแชมป์มาฝากแฟนฟุตซอลไทย”
เกมนี้ทีมไทยไม่มีปัญหาผู้เล่นติดโทษแบนยังมีเพียงรายของ เทอดศักดิ์ เจริญพงษ์ ที่มีอาการบาดเจ็บตั้งแต่เกมนัดแรก รอลุ้นลงสนามแกนหลักยังคงนำโดย 3 ท็อปสกอร์ “กัปตันช้าง” กฤษดา วงษ์แก้ว ,พีรพัฒน์ แก้ววิลัย และ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ที่ซัดไปแล้ว 10 ประตูในรายการนี้ลุ้นดาวซัลโว 2 สมัยซ้อน โดยผู้เล่น 5 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม ประกอบด้วย : คทาวุธ หาญคำภา(ผู้รักษาประตู) ,กฤษดา วงษแก้ว ,กฤษณ์ อรัญสัญญาลักษณ์ ,อัษฎาวุฒิ แจ้งคต ,มูฮัมหมัด อุสมานมูซา
ฝั่ง”การูด้า” อินโดนีเซีย ที่เคยคว้าแชมป์ 1 สมัยในปี2010 และเป็นรองแชมป์ครั้งที่ผ่านมา ลงเตะ 5 ที่ผ่านมา ชนะ บรูไน 12-0 ,ชนะ มาเลเซีย 5-1 ,ชนะ กัมพูชา 11-6 ,เสมอ ไทย 2-2 ,ชนะ เมียนมา 6-1 และ ชนะ เมียนมา 6-1 ยิงรวม 36 ประตู เสีย 6 ประตู นำโดยกุนซือชาวอิหร่าน โมฮัมหมัด ฮาเซมซาเดห์ สภาพความพร้อมของทีมไม่มีปัญหาติดโทษแบนตัวหลักอยู่กันครบทั้ง รันตูบอย ดาวซัลโวของทีม 8 ประตู และหน้าเป้าตัวเก่ง อีวาน ซูมิเลน่า ที่ซัดไปแล้ว 7 ประตู พร้อมด้วยนายด่านที่โชว์ฟอร์มเหนียวในการพบกันรอบแบ่งกลุ่มที่เสมอมา 2-2 อย่าง มูฮัมหมัด อัลบากีร์
ผู้เล่น 5 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม : มูฮัมหมัด อัลบากีร์(ผู้รักษาประตู) ,อันชา ,ซาเวียร์ ,ฟีร์แมน ,อีวาน ซูมิเลน่า
สถิติการพบกันรายการนี้ 10 ครั้ง ไทย ชนะ 8 แพ้ 1 เสมอ 1
2003 ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 6-3
2005 ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 7-0
2008 ไทย แพ้ อินโดนีเซีย 1-3
2009 ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 3-2
2012 ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 6-1
2013 ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 10-4 รอบรองฯ
2014 ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 1-0 รองรองฯ
2018 ไทย ชนะ อินโดนีเซีย ต่อเวลาพิเศษ 3-2 รอบรองฯ
2019 ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 5-0 รอบชิง
2022 ไทย เสมอ อินโดนีเซีย 2-2