เป็นมือปราบสบงเถื่อนตัวจริง สำหรับ “แพรรี่ ไพรวัลย์” พิธีกรสายแซ่บสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 หลังที่ออกโรงแฉ พระดัง จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมงัดหลักฐานภาพบวบพร้อมแคปชันเด็ด ผ่านเพจตัวเอง ทำให้พระรูปดังกล่าวยอมสึกออกมาด้วยจำนนต่อหลักฐาน ล่าสุดเกิดกระแสอีกครั้ง คราวนี้สบงผืนต่อไป ร่อนไกลไปถึงจังหวัดเชียงใหม่ เพราะแอบมีมือดี ที่ทนต่อคาวโลกีย์ภายใต้ศาสนาไม่ไหว ขอแอบส่งหลักฐานลับ ภาพหลุดของพระรูปหนึ่งแอบถอดสบง ทรงเครื่องห่มฆราวาส ย่องเที่ยวบาร์โฮสซุกอกผู้ชายยามวิกาลทุกคืน โดยแพรรี่ได้อัปเดตหลังจากเจ้าตัวถ่ายรายการเสร็จแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ว่า
หลังจากที่พระท่านได้สึกแล้ว เราได้มีอัปเดตอะไรต่อไหม? ไม่มีอะไรอัปเดตเลย เพราะความตั้งใจของเรามีแค่นี้เท่านั้น ก็คือมีคนมาส่งภาพร้องเรียนมาทางเรา และเราก็ให้เขาส่งข้อมูลทั้งหมดมาให้เราดู แล้วมันเป็นภาพที่ค่อนข้างจะชัดมาก สามารถระบุการกระทำความผิดได้ว่าเป็นพระรูปนี้จริงๆ เราก็เลยรับเรื่อง และเราก็บอกเดี๋ยวเราจัดการให้ เพราะเราต้องเข้าใจว่าพระบางรูปอยู่ต่างจังหวัด บางทีท่านสร้างฐานความศรัทธา เหมือนเคสนี้เป็นถึงเจ้าคณะตำบล คนที่จะเปิดเผยข้อมูลเขาก็ค่อนข้างกลัวอิทธิพล หลายเคสจะเป็นแบบนี้ เขาก็ไม่กล้า เขาก็เลยส่งเรื่องมาให้เรา เราก็เลยเดี๋ยวจัดการให้ ก็เลยโพสต์ แต่โพสต์ก็คือเตือน ใช้วิธีการเตือนว่า รู้แล้วนะท่านทำความผิด ท่านทำอะไร มีความผิดมีภาพหลุด ฉะนั้นท่านควรสึกไปซะเถอะ ก็เหมือนตามที่เราโพสต์ไป จะให้เวลา 3 วัน
แต่พอกระแสดังก็เหมือนแค่วันเดียว เขาก็สึกเลย? จริงๆ เราจะให้เวลา 3 วันจริงๆนะ เพราะเรารู้ว่า พระระดับนั้นจะสึกได้ บางทีอาจจะต้องเคลียร์บัญชี เคลียร์งานต่างๆ เพื่อฝากงานให้พระท่านอื่นดูต่อ ปรากฎว่าพอโพสต์ไป มันเป็นข่าวดัง เรามีการเช็กอินวัดชัดเจน แล้วชาวบ้านก็เดินทางไปที่วัด เรียกร้องว่าเขาจะดูหลักฐาน เพราะเขาไม่เชื่อเรา เขาเชื่อพระว่าพระไม่น่าจะเป็นแบบนั้น เขามองเราว่าเราใส่ร้ายพระ เราก็จำเป็นต้องเอาภาพไปโพสต์เลย พอไปโพสต์ก็คือเกมจริง มันก็เลยจาก 3 วัน มาเป็นวันเดียว
เรารู้สึกอย่างไรบ้างพอทราบข่าวว่าเขาสึก? ดิฉันก็ภูมิใจในสิ่งที่ท่านยอมรับ และก็ลาสิกขาไป แต่อาจจะยอมรับเพราะจำนนต่อหลักฐาน ถ้าไม่มีหลักฐานก็อาจจะไม่ยอม หลายเคสก็จะเป็นแบบนี้ ถ้าไม่มัดตัวก็จะไม่ยอมรับหรอก ก็อยู่ๆ ไปแบบนั้นแหละ
เขาติดต่อมาไหม หลักจากเป็นข่าว? เขาไม่ได้ติดต่อมาหา แต่เขาไปติดต่อพระรูปหนึ่งที่เป็นเพื่อนเขา แล้วเพื่อนพระของเขารู้จักกับดิฉัน เพราะที่เป็นเพื่อนเขาก็ทักมาถามว่าใช้รูปภาพนี้หรือเปล่า เราก็บอกว่าใช่ ดิฉันมีภาพมีอะไรทั้งหมดนะ ก็ฝากไปบอกเขาด้วยว่าให้เขาไปจัดการตัวเองเถอะ สละผ้าเหลืองแล้วออกมา เขาก็อาจไปคุยกัน แต่ทีแรกเขาจะพยายามเหมือนให้ช่วยมาคุยกับเรา แบบอย่างไปเปิดโปงเลย แต่ดิฉันไม่มีนอกไม่มีใน ดิฉันไม่เอา ดิฉันไม่เคลียร์ มันไม่ใช่เรื่องของดิฉัน มันเป็นเรื่องพระพุทธศาสนา มันเป็นเรื่องส่วนรวมไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่เราจะมาคุยกันได้ ดิฉันทำไม่ได้ต้องการผลประโยชน์อะไร
รู้สึกอย่างไรบ้าง ช่วงแรกหลังออกมาพูด คนมองเราไปกลั่นแกล้ง? ก็คิดอยู่แล้วต้องเป็นแบบนี้ เพราะคนพุทธจะเป็นแบบนี้ เวลาเราศรัทธาใคร นับถือใครสักคนหนึ่งก็จะศรัทธานับถือแบบไม่มองเขาในแบบที่จะตั้งคำถามเลย คนพุทธส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ไม่ตั้งคำถาม เวลาที่จะไปศรัทธาใคร ครูบาอาจารย์ พระเกจิ พระครูบา ศรัทธาแล้วอย่าไปศรัทธาเลย แล้วก็จะมองภาพลักษณ์ของพระครูบาอาจารย์ตัวเอง ในภาพที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบไปหมด แต่เราก็เข้าใจไม่ได้รู้สึกแปลกที่เขาจะตั้งคำถามกับเราว่าเราจะไปใส่ร้ายใส่ความ แต่เรารู้อยู่แล้วที่เราทำคืออะไร ดิฉันไม่เคยรู้จักกับพระรูปนี้เลย ไม่เคยมีความรู้จักกันมาก่อนเลย ดิฉันไม่ได้ถูกขัดผลประโยชน์อะไรกับเขา เขาไม่ได้แย่งกิจนิมนต์ดิฉัน ไม่ได้แย่งพระเครื่องดิฉัน(หัวเราะ)
ล่าสุดก็มีประเด็นอีก หลังจากแพรรี่พูดถึงพระที่เชียงใหม่แอบเที่ยวบาร์โฮส? พระที่เชียงใหม่กำลังรอข้อมูลอยู่ที่มันชัดเจนกว่านี้เพราะว่า มันมีคนร้องเรียนว่าพระรูปนี้มีพฤติกรรมชอบเที่ยวบาร์โฮสทุกคืน และรูปทุกรูปของเขาจะใส่หมวก คิ้วไม่มี แล้วเขาจะมีรูปหน้าเทียบกัน เขาก็เลยร้องเรียนมาให้ตรวจสอบบุคคลนี้เหมือนพระรูปนี้ ข้อเท็จจริงอย่างไร
ตอนนี้เราดำเนินการอย่างไร ไปตรวจสอบไหม? กำลังรอหลักฐานอยู่ให้มันชัดเจนว่ามันพอที่จะระบุตัว หรือกระทำความผิดได้ไหม เพราะว่าพฤติกรรมมันน่าสงสัยคือ ตอนกลางคืนก็เที่ยวบาร์โฮส แต่ตอนกลางวันรับกิจนิมนต์เหมือนพระทั่วไปปกติ เขาก็รู้กัน มีลักษณะแบบนี้เยอะ แล้วก็คิดว่าจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน และก็มีอีกหลายเคสที่ร้องเรียนเข้ามา แต่ปัญหาคือไม่มีหลักฐานเพียงพอต่อการชี้ความผิด
หลายคนสงสัยว่าสรุปพระมีอิทธิพลเหมือนนักการเมือง? มี ยิ่งพระที่บวชมานาน อาศัยฐานความศรัทธาของคน ทำพิธีกรรมบ่อยๆ เกี่ยวกับการปลุกเสก การทำบุญได้เงินได้ทอง พระพวกนี้ได้เงินได้ทองก็เอาเงินเอาทองนี่แหละไปสร้างความมีอิทธิพล สร้างกลุ่มลูกศิษย์ เอาแค่ไปออกเหรียญก็มีคนปกป้องแล้ว เพราะมันมีคนที่พร้อมจะเอาพระไปเป็นผลประโยชน์ เขาก็ต้องปกป้อง หากพระรูปนี้เสียหาย เหรียญของเขา วัตถุมงคลของเขาที่เคยมีเกี่ยวกับพระรูปนี้ มันก็จะเสียหายไปด้วย มันเป็นเรื่องธุรกิจทั้งนั้น เหมือนเคสหนึ่ง ดิฉันบอกไม่ได้เคสไหน ลูกศิษย์มาด่าดิฉันทุกวัน เพราะมันเสียผลประโยชน์ เพราะฉันไปแฉอาจารย์มัน ในพฤติกรรมของอาจารย์มันที่ไม่ดูน่าศรัทธา มันก็อาจทำให้ยอดขายวัตถุมงคลยอดลดลง
ฝากถึงพระที่มีพฤติกรรมที่ชอบแอบทำผิด? ดิฉันเป็นคนไม่เยี่ยมย้ำซ้ำเติมใคร ผิดคือผิด ถูกคือถูก และพระหลายรูปถ้าทำผิด ท่านต้องมีความกล้าหาญ เป็นพระต้องมีความกล้าหาญ อย่าเห็นศาสนา จีวรเป็นที่แสวงหาผลประโยชน์ อย่าทำตัวเหมือนไปเกาะแล้วไปดูดเนื้อ พระหลายรูปตอนนี้กำลังเป็นแบบนี้ที่ตัวเองไปบวชไม่ได้มุ่งมั่นอยากจะเข้าไปปฏิบัติธรรม สืบทอดพระพุทธศาสนา แต่เข้าไปเพื่อแสวงหาลาภสักการะ มันไม่ช่วยให้พระพุทธศาสนาสะอาดผุดผ่องแล้ว มันยังเป็นการบั่นทอนอายุพุทธศาสนา และมันเป็นการทำลายศรัทธาคน ให้คนหันหลังให้พระพุทธศาสนา ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้อยากเป็นนักบวชจริงๆออกมา อยากรวย อยากมีเงินมีทอง อยากมีเด็กหรืออะไร สึกออกมาเป็นฆราวาสแล้วมี ไม่มีใครว่า อย่าไปทำแบบนี้ที่อยู่ในผ้าเหลือง และอย่ารอให้คนจับผิดก่อนถึงแสดงความรับผิด อย่าให้ต้องรอดิฉันที่วันหนึ่งจะเอาภาพท่านมาขึ้นเพจ หรือมีชาวบ้านมาร้องเรียน
ฝากถึงประชาชนที่คอยตามข่าว? เวลาศรัทธาพระ อย่าศรัทธาแบบที่หลวงพ่อพะยอมพูด คือ “ศรัทธาไม่มีหลัก ศรัทธาเลื่อนลอย” คือศรัทธาไปเรื่อย เห็นเขาศรัทธาเพราะคนพูดปากต่อปาก ศรัทธาเพราะคนบอกต่อ ศรัทธาเพราะมีเหรียญมีวัตถุมงคล เป็นพระเกจิ ศรัทธาพระเพราะเราศรัทธาคำสอน ศรัทธาพระเพราะว่าเราศรัทธาพุทธศาสนา ต้องจับศรัทธาให้ถูก แต่หากเราไปยึดศรัทธาตัวคน วันหนึ่งตัวคนทำไม่ดี และมีภาพไม่ดีออกมา มันก็จะบั่นทอนเรา ทำให้เราคอยเกลียดชังพุทธศาสนาไปด้วย ทำให้เราไม่อยากเข้าวัดทำบุญ ซึ่งแบบนี้ไม่ถูก อยากฝากเตือนสติ เพราะศรัทธาตัวธรรมะจะไม่มีวันผิดหวังค่ะ
สุดท้ายแพรรี่ยังฝากทิ้งท้ายถึงประชาชนว่า “ถ้าใครอยากให้ดิฉันช่วยเหลือ กลัวเรื่องอิทธิพล ส่งมาได้ตลอดเลยทุกวันทางเพจ ดิฉันไม่กลัวอิทธิพล แต่ขอว่าทุกเคสให้มีหลักฐานชี้มัดตัวของพระที่กระทำความผิด ไม่ต้องกลัวว่าดิฉันจะไม่นำเสนอให้ ขอให้ส่งมา ดิฉันจะเปิดโปงให้ ถ้าผิดจริง และดิฉันเห็นว่าเคสแบบนี้ผิดแน่นอน”