เพื่อเฉลิมฉลองวันมังสวิรัติโลกที่จะมาถึงในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ สายการบินเอมิเรตส์ได้ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับอาหารที่ทำจากพืช ด้วยการลงทุนหลายล้านดอลลาร์เพื่อมอบตัวเลือกในการรับประทานอาหารมังสวิรัติแบบใหม่บนเครื่องบินให้แก่ลูกค้าทุกท่าน โดยเอมิเรตส์จะให้บริการเมนูอาหารมังสวิรัติที่คัดสรรมาอย่างดีในชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ รวมถึงชั้นประหยัดที่มีการรังสรรค์เมนูอาหารใหม่ ๆ ที่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จากพืชที่สดใหม่มากมายอีกด้วย
สายการบินเอมิเรตส์กำลังกำหนดมาตรฐานใหม่ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด ด้วยตัวเลือกที่อร่อยและดีต่อสุขภาพสำหรับลูกค้าทั่วโลกตามวิถีชีวิตแบบมังสวิรัติ หรือสำหรับผู้ที่แสวงหาทางเลือกอาหารมื้อเบาขณะเดินทาง โดยตัวเลือกอาหารมังสวิรัติสามารถสั่งได้บนเที่ยวบินและสั่งจองล่วงหน้า และในห้องรับรองของเอมิเรตส์ได้ตามความต้องการ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของผู้บริโภควีแกน และความสนใจทั่วไปในอาหารที่ทำจากพืชของผู้คนทั่วโลก
ความต้องการอาหารมังสวิรัติที่เพิ่มขึ้น
สายการบินเอมิเรตส์ให้บริการตัวเลือกอาหารมังสวิรัติบนเครื่องบินมาตั้งแต่ปี 1990 โดยแรกเริ่ม อาหารมังสวิรัติจะเปิดให้บริการเฉพาะบางจุดหมายปลายทาง เช่น แอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย ซึ่งจำเป็นต้องมีอาหารมังสวิรัติในช่วงเวลาหนึ่งของปี ตามผู้ที่ปฏิบัติตามศรัทธาของเอธิโอเปียออร์โธดอกซ์ หรือบางเส้นทางในทวีปอินเดียที่หลายศาสนาสนับสนุนการรับประทานอาหารที่เน้นพืชเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันอาหารมังสวิรัติกำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในเส้นทางไปยังสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป และสหราชอาณาจักร ที่สายการบินเอมิเรตส์พบว่าความสนใจในอาหารมังสวิรัติมีเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ เส้นทางที่ผู้คนให้ความสนใจอาหารมังสวิรัติเพิ่มขึ้น ได้แก่ เบรุต ไคโร และไต้หวัน ปัจจุบันเอมิเรตส์นำเสนอสูตรอาหารจากพืชมากกว่า 180 รายการสำหรับลูกค้าวีแกนทั่วโลก
การพัฒนาเมนูอาหารมังสวิรัติ
จากการสำรวจของ VegNews และเว็บไซต์จำนวนมาก พบว่าสายการบินเอมิเรตส์ได้รับการจัดอันดับอย่างต่อเนื่องว่าเป็นสายการบินที่ดีที่สุดสำหรับนักเดินทางมังสวิรัติ โดยเอมิเรตส์ได้ลงทุนเพื่อพัฒนาเมนูมังสวิรัติใหม่ ๆ โดยเมนูมังสวิรัติในชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจใช้เวลา 1 ปีในการพัฒนาใน Emirates Flight Catering หนึ่งในธุรกิจจัดเตรียมอาหารบนเที่ยวบินที่ใหญ่ที่สุด ณ ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ซึ่งมีพนักงาน 11,000 คนและเสิร์ฟอาหารมากถึง 225,000 มื้อต่อวัน รวมถึงยังเป็นสถานที่ผลิตอาหารบนเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่รวบรวมเชฟนานาชาติจาก 69 สัญชาติทั่วโลก ซึ่งเมนูทางเลือกใหม่นี้ เน้นไปที่การนำเสนอและรสชาติ ผ่านการมีส่วนร่วมจากผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารที่หลากหลาย เช่น เชฟพิเศษชาวจีน อินเดีย และอาหรับ เพื่อรังสรรค์รสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย โดยได้รับการชิมรสชาติจากทั้งเชฟมังสวิรัติและเชฟที่ไม่ใช่มังสวิรัติ รวมถึงสมาชิกในทีมเพื่อให้แน่ใจว่ามีรสชาติที่อร่อยและถูกปากลูกค้าของเอมิเรตส์
ในชั้นประหยัด เมนูมังสวิรัติจะมีการเปลี่ยนใหม่ทุกเดือน เพื่อนำเสนออาหารที่หลากหลายให้กับผู้ที่เดินทางเป็นประจำ ซึ่งอาหารมังสวิรัติในชั้นประหยัดสามารถสั่งจองล่วงหน้าและได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้โดยสารทั่วโลก เมนูโปรดของผู้โดยสารในปัจจุบัน ได้แก่ ผักโขมครีมและมูสลีนอะโวคาโด กับเต้าหู้หมัก ถั่วลันเตาลวก หัวไชเท้า หน่อไม้ฝรั่ง เมล็ดทับทิม บวบหั่นบาง และน้ำมันศรีราชา หรือ เมนูควินัวหลากสีกับลูกแพร์คาราเมลฉ่ำและซีเรียลพูเร กะหล่ำดอกคั่ว ผักเคลผัดเพสโต้ และริซอตโต้ข้าวบาร์เลย์กับเห็ด เสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศตากแห้ง เกาลัดผัดเนย บร็อคโคลินีลวก และเมล็ดฟักทองอบ
นอกจากนี้ เมนูของหวานมังสวิรัติยังมีรสชาติอร่อยไม่แพ้ใคร ด้วยตัวเลือกที่น่าดึงดูดใจ เช่น ดาร์กช็อกโกแลตคัสตาร์ดเค้กตัดรสด้วยสตรอว์เบอร์รีสดฉ่ำ ทาร์ตมะนาวรสเอร็ดอร่อยที่เจือด้วยครีมมะพร้าวเล็กน้อย และชีสเค้กเต้าหู้ช็อกโกแลตเข้มข้น เสริมด้วยผลไม้แช่อิ่มสตรอว์เบอร์รีหวาน เป็นต้น
วัตถุดิบคุณภาพสูงที่ใส่ใจในสุขภาพ
ประโยชน์ของการเลือกใช้พืชเป็นพลังงานเป็นที่สนใจมากขึ้นสำหรับลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพซึ่งอาจไม่ได้ถือตนเป็นวีแกน แต่เลือกรับประทานอาหารมื้อที่เบากว่าเป็นครั้งคราวเพื่อเสริมไลฟ์สไตล์ของพวกเขา ผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ใช้บนเครื่องบินของเอมิเรตส์ ได้แก่ ชีสแบบวีแกน แป้งถั่วชิกพีแทนแป้งขาว เพราะปราศจากกลูเตน และยังใช้รังสรรค์เมนูที่แสนคุ้นเคยอย่าง เครปและไข่เจียว เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสนุ่มลิ้นแสนอร่อย นอกจากนี้ยังใช้ครีมจากมะพร้าวหรือครีมจากพืชแทนครีมจากนมไขมันสูง เนยมะพร้าวหรือมาการีนแทนเนยนม และใช้มะพร้าวและน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพแทนน้ำมันพืช และยังช่วยเพิ่มรสชาติให้กับเมนูและอุณหภูมิของอาหาร ซึ่งอาหารเหล่านี้ยังประกอบด้วยซุปเปอร์ฟู้ดหลายชนิด เช่น เมล็ดควินัวขาวดำที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเรื่องระดับคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานและโรคหัวใจ ยิ่งไปกว่านั้น เอมิเรตส์นำเสนอเมนูวีแกนใหม่ในชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ อย่างเมนูคอฟต้า ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร อันทำจากผลิตภัณฑ์จากพืชจากบริษัท Beyond ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยในส่วนเมนูของหวานมังสวิรัติจะถูกปรุงขึ้นโดยใช้ดาร์กช็อกโกแลตออร์แกนิกที่มีส่วนผสมของโกโก้ดิบ 60% จากสาธารณรัฐโดมินิกัน ในขณะเดียวกันอาหารมังสวิรัติจะเสริมด้วยน้ำผลไม้ Vitality ที่สดชื่น ซึ่งเป็นน้ำผลไม้ผสมตามสั่ง รังสรรค์โดย Barakat แบรนด์ UAE อันเป็นที่รักของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ น้ำผักปราศจากกลูเตนและมังสวิรัติแต่ละชนิดเต็มไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็น โดยไม่เติมน้ำตาล สารเติมแต่ง หรือสารกันบูด
รสชาติและการนำเสนอเมนู
ทีมเชฟที่ได้รับรางวัลของสายการบินเอมิเรตส์ได้ร่วมกันสร้างสรรค์เมนูมังสวิรัติแบบใหม่ โดยใช้ผักเป็นส่วนผสมหลักแทนเนื้อสัตว์ และใช้เทคนิคการทดแทนผิวสัมผัสของเนื้อ รวมถึงการปรุงรสชาติอย่างชาญฉลาดเพื่อสร้างรสอูมามิที่ขาดไม่ได้ เช่น เมนูใหม่ที่ประกอบด้วยขนุน อันเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยจากอินเดียตะวันตกเฉียงใต้ ใช้เป็นจุดโฟกัสในอาหารมังสวิรัติบางประเภทในขณะที่ปรุงด้วยเนื้อสัมผัสที่เข้มข้น หรือ Kohlrabi ผักผสมระหว่างกะหล่ำปลีกับหัวผักกาด ที่มีรสชาติอ่อน ๆ สามารถดูดซับรสชาติที่หมักหรือปรุงเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นส่วนเสริมที่มีประสิทธิภาพมากสำหรับอาหารมังสวิรัติ นอกจากนี้ส่วนผสมหลักอื่น ๆ ที่ช่วยให้อาหารมีรสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น ได้แก่ เต้าหู้ สเต็กดอกกะหล่ำ ถั่วและพืชตระกูลถั่วนานาชนิด โดยการเน้นที่ความสด ความมีชีวิตชีวาของรสชาติ และความอิ่มท้อง อาหารมังสวิรัติแบบใหม่ของเอมิเรตส์นำเสนอคอลเลกชันที่น่าดึงดูดใจของตัวเลือกที่มีสีสันและดีต่อสุขภาพ รวมถึงเต้าหู้มะเขือเทศเชอร์รี่แอร์ลูม กับถั่วแระญี่ปุ่นและงาคั่ว รากูต์เห็ดหอมโหระพา อะโวคาโดสดพันธุ์แฮส และสลัดผักมะม่วง หรือสลัดผักเคลและแครนเบอร์รี่เสิร์ฟบนมันเทศย่าง เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารอร่อย ดีต่อสุขภาพ และน่ารับประทาน อาหารมังสวิรัติจะปรุงแต่งอย่างประณีตด้วยสมุนไพรสดจากฟาร์ม เบอร์รี่ และน้ำผลไม้หลากสีสัน ซึ่งจะมีแผ่นทองคำเปลวแท้บาง ๆ ประดับบนเมนูของหวานมังสวิรัติแบบใหม่หลากหลายเมนู
แหล่งจัดหาวัตุดิบแบบยั่งยืน
ตัวเลือกอาหารมังสวิรัติบนเครื่องบินของเอมิเรตส์มีสารอาหารเข้มข้นและอุดมไปด้วยพืช ผักและผลไม้ ที่มาจากซัพพลายเออร์หลายแห่งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงคะน้าที่ปลูกในท้องถิ่น มะเขือเทศเชอร์รี่แอร์ลูม ผักสลัด และสมุนไพรจาก Bustanica ซึ่งเป็นฟาร์มแนวตั้งแบบไฮโดรโปนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากการร่วมทุนกว่า 40 ล้านเหรียญสหรัฐผ่าน Emirates Flight Catering โดยฟาร์ม Bustanica ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ทรงพลัง เช่น แมชชีนเลิร์นนิง ปัญญาประดิษฐ์ และวิธีการขั้นสูง ในขณะที่รวมทีมผู้เชี่ยวชาญหลากหลายแขวง ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านพืชไร่ วิศวกร ชาวสวน และนักวิทยาศาสตร์พืช ซึ่งก่อให้เกิดวงจรการผลิตที่ต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจได้ว่าผลผลิตจะสดและสะอาดอย่างสมบูรณ์ และปลูกได้โดยไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง สารกำจัดวัชพืช หรือสารเคมี ดังนั้นผู้โดยสารทุกคนในสายการบินเอมิเรตส์จะได้เพลินดเพลินไปกับอาหารที่เต็มไปด้วยผักใบเขียวแสนอร่อย รวมถึงผักกาดหอม ผักร็อกเก็ต ผักสลัดรวม และผักโขมจาก Bustanica ทีมีแผนที่จะปลูกผักและผลไม้ให้มากขึ้นในอนาคต