บริษัท แพลน บี อีเลฟเว่น จำกัด (บริษัทในเครือของบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน)) ผู้ร่วมบริหารสิทธิ์ การถ่ายทอดสด การแข่งขันโอลิมปิก ปารีส2024 และสิทธิ์บริหารงานทางการตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ร่วมกับ เดนท์สุ อิงค์ (Denstu Inc.) ประเทศญี่ปุ่น ขอบคุณทุกคะแนนจากผู้คนทุกวงการทั่วประเทศไทยสำหรับรางวัลแห่งความภูมิใจคุณภาพ “Best Media, Publisher, Broadcasting Influencer Campaign” จากงาน Thailand Influencer Awards 2024 by Tellscore งานประกาศรางวัลสุดยอดอินฟลูเอนเซอร์ และสุดยอดอินฟลูเอนเซอร์แคมเปญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ในฐานะผู้สร้างแคมเปญทางการตลาดในวงการกีฬาไทย ภายใต้ความเป็น Sport Marketing Agency เจ้าใหญ่ของประเทศไทย และดูแลส่วนการประชาสัมพันธ์และสิทธิประโยชน์ของแบรนด์ที่สนับสนุนการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ในประเทศไทย โดยตัวรางวัลชี้ชัดความโดดเด่นของงานออกแบบทางการตลาดที่สร้างสรรค์อย่างบูรณาการครอบคลุมทุกมิติการสื่อสาร ทุกวงการ ทุกไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค และครองพื้นที่การรับรู้ทั่วประเทศด้วยการขับเคลื่อนของกลยุทธ์ 4’O Marketing Strategy ในคอนเซ็ปท์ “ที่สุดของที่สุด” ที่สร้างประสบการณ์ สร้างคุณค่าและมีความหมายในทุกขั้นตอนรวมถึง ‘Out of Home’ สื่อนอกบ้านทั่วประเทศไทย Asset ทรงพลังในมือเสริมตัวแคมเปญยิ่งครอบคลุมทุกระดับการรับรู้ตลอดช่วงแคมเปญ 5 เดือน ต่อยอดความสำเร็จให้กับลูกค้าและแบรนด์พาร์ทเนอร์ผ่านยอดชี้วัดชัดเจนพร้อมเสียงตอบรับล้นหลาม
นายปุญญพัฒน์ ฉายินทุ ผจก.ฝ่ายสร้างสรรค์กลุ่มบริษัทแพลน บี อีเลฟเว่น ผู้สร้างสรรค์กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ (Integrated Communication) ขึ้นรับรางวัลคุณภาพฯ “จากแคมเปญโอลิมปิกที่ผ่านมานอกจากโอกาสที่ได้เป็นผู้บริหารสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดมหกรรมกีฬาอย่างโอลิมปิกของคนทั้งโลกแล้ว สิ่งหนึ่งที่แพลนบีได้มองเห็นคือมหกรรมกีฬาครั้งนี้ ยังเป็นการจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่และชัดเจนของการแข่งขันในการสร้างคอนเทนต์จากเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ทั่วโลกร่วมกัน และในโมเม้นท์โอลิมปิกนี้
สำหรับคนไทยแล้วเราได้เห็นคอนเทนท์ประทับใจจากหลายครีเอเตอร์รุ่นใหม่หลากหลายช่องทาง แต่แน่นอนว่า หนึ่งในความสำเร็จที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนคือ น้องเฟรม ธนาคาร นักกีฬาปั่นจักรยานทีมชาติไทยที่ได้ร่วมการแข่งขันในครั้งนี้เพราะถึงแม้น้องจะยังไม่ได้เหรียญรางวัลกลับมา แต่ถ้ามองเรื่อง “การผลิตคอนเทนต์และการเป็นอินฟลูเอนเซอร์” เป็นหนึ่งในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ ผมเชื่อว่าเฟรมก็ต้องได้ไม่ต่ำกว่าเหรียญทองเช่นกัน”
“แต่จากการทำโปรเจคต์นี้เราเชื่อว่าแม้โอลิมปิกจะจบลงแล้วโดยจะเกิดขึ้นแค่เพียงหนึ่งครั้งในทุกสี่ปี แต่โอกาสใหม่ๆในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ การบริหารคอนเทนต์ และการสร้างโอกาสให้กับลูกค้าและคนดู ยังสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัน ทุกเวลา เราเองจึงยินดีและสนุกที่จะได้ร่วมงานกับทุกพาร์ทเนอร์ ลูกค้าและอินฟลูเอนเซอร์ทุกท่านไม่เฉพาะเพียงด้านกีฬาอย่างในแคมเปญโอลิมปิกครั้งนี้ เพื่อร่วมกันสร้างโอกาสและเรื่องเล่าใหม่ๆด้วยกัน และในฐานะส่วนเล็กๆของอุตสาหกรรมการตลาดที่แข่งขันกันอย่างขับเคี่ยวและดุเดือดอย่างทุกวันนี้ ขอส่งกำลังใจแก่เพื่อนร่วมทางในวงการนักการตลาด นักสื่อสารฯ และครีเอเตอร์ ว่าแม้ปีนี้เรายังเดินไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ขอเพียงไม่หยุดนิ่งและยอมแพ้ ผมเชื่อว่าอย่างไรเราก็จะไม่ได้อยู่ที่เดิมแน่นอน ร่วมเป็นกำลังใจไปด้วยกันและยังขอแรงเชียร์ต่อไป สำหรับกิจกรรมด้านการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติและระดับโลกในอนาคตที่แพลนบี อีเลฟเว่น เต็มที่กับทุกแคมเปญเช่นที่ผ่านมาครับ”
ทั้งนี้ แพลนบีฯขอบคุณความไว้วางใจจากทุกแบรนด์พาร์ทเนอร์และผู้สนับสนุนการทำการตลาดโอลิมปิกฯ ได้แก่ โตโยต้า ไดกิ้น นมเปรี้ยวโยอิซี สิงห์เลมอนโซดา เครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ ฮาตาริ อลิอันซ์ อยุธยา เอไอเอส ทรู สยามพิวรรธน์ เฟรเซอร์ กลุ่มลูกค้าใหม่ที่เข้ามาส่วนร่วมในระหว่างทางของการแข่งขัน รวมถึง บรอดคาสเตอร์ทุกแพลตฟอร์ม ช่อง T Sports 7, 9 MCOT HD, CH7 HD, PPTV HD 36, AIS Play และ TRUE Visions Now “การทำงานร่วมกันครั้งนี้ สนุก มีสีสันและเกิดความเคลื่อนไหวอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเห็นได้จากตัวเลขหลังบ้านที่เราตรวจวัดและมอนิเตอร์ 24 ชั่วโมงให้ทุกกิจกรรม ที่เพิ่มขึ้นจนสร้างแรงกระเพื่อมให้หลายส่วนขยับไปแตะในจุดที่เป็นนิวไฮอย่างน่าประทับใจ ในฐานะเอเจนซี่ พึงพอใจมากกับผลตอบรับที่ดีมากๆ ในทุกด้าน ที่สะท้อนกลับมาสู่ลูกค้าเรา ถือเป็นเจอร์นี่ของการการทำการตลาดร่วมกันอย่าง ถูกที่ ถูกจังหวะ และย้ำให้เห็นถึงความมั่นใจในแนวคิดตั้งต้นของแพลนบีว่า กีฬา จะสามารถรวมจิตวิญญาณของผู้คนให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ โดยเรายังมองเห็นพื้นที่อีกมากที่สามารถสร้าง Value added ให้กับลูกค้า ภายใต้การทำตลาดสำหรับมหกรรมกีฬาในอนาคต และครอบคลุมไปถึงการทำตลาดและสร้างคอนเทนท์ประทับใจในเนื้อหาด้านอื่นๆ เช่นวงการบันเทิง คอนเสิร์ต โชว์ระดับโลก ในอนาคตอันใกล้”
พร้อมกันนี้ ได้สรุปinsight สำหรับตัวเลขบ่งชี้ในกิจกรรมทางการตลาด (*รวบรวมผลและวิเคราะห์ข้อมูลโดย Wisesight และ Fanpage Karma ภายใต้ 4’O Marketing Strategy ที่ให้ความสำคัญกับการทำ Brand Experience & Engagement ในทุกกิจกรรมของทุกเฟส ตลอดระยะเวลาการแข่งขันทั้งโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ให้ได้ทราบเพิ่มเติม ตัวเลขและสถิติใหม่ที่เกิดขึ้นบนการทำงานของ กลยุทธ์ 4’O Marketing Strategies ภายใต้คอนเซ็ปท์ “ที่สุด” ● OOH (สื่อ Out of Home)
– จำนวนจอที่ใช้ในแคมเปญนี้รวมมากกว่า 14,000 จอ ครอบคลุม 57 จังหวัด (รวม Live OOH) รวมการมองเห็นทั้งสิ้นมากกว่า 5 พันล้าน eyeball ใช้งบประมาณทั้งสิ้นมากกว่า 8 หลัก
– Live OOH
ถ่ายทอดสดแมตช์สำคัญของทั้งพิธีเปิดและแมตช์แข่งของนักกีฬาไทยผ่านบนจอ OOH ตลอดการแข่งขันโอลิมปิกระหว่างวันที่ 26 ก.ค. – 11 ส.ค. 2567 ทั้งสิ้น 13.25 ชั่วโมง มากกว่า 197 จอทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
ซึ่งประชาชนจำนวนมากจะมาจับจองที่นั่งและที่ยืนก่อนเวลาการแข่งขัน เป็นหลักหมื่นจนลงมาถึงหลักร้อยแล้วแต่สถานที่ อาทิ จอบนห้างเซ็นทรัลเวิลด์ จอที่สยามเซ็นเตอร์พอยท์ จอหลัก ณ Olympic Park ที่สามย่านมิตรทาวน์ จอบนสี่แยกต่างๆที่มีประชาชนรอดูอย่างเนืองแน่นทั้งบนฟุตบาทและบนสะพานลอยฟ้าหรือทางเชื่อมบีทีเอส ซึ่งนอกเหนือสิ่งที่เกิดขึ้นบนจอแบบ realtime ตัว Live OOH ยังทำให้เกิด Viral Moment ต่างๆในโลกออนไลน์ โดยพบว่ามีวีดีโอที่ได้ยอดวิวสูงสุดถึง 1 ล้านวิวบน TikTok และ มี การพูดถึงกันอย่างแพร่หลายในแอปพลิเคชั่น X
– Fast ads effect การนำเสนอคอนเทนต์แบบเรียลไทม์เสิร์ฟบนจอ OOH ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
รายงานผลการแข่งขันและแสดงความยินดีกับนักกีฬาแบบทันที, การชี้เป้า Program นักกีฬาไทย พร้อมบอกช่องทางรับชมออนแอร์ตารางสรุปเหรียญประจำวันตบท้ายด้วยคอนเทนท์ ‘Break The Record’
นำเสนอการทำลายสถิติใหม่ของเหล่านักกีฬา
- Online
– สำหรับบ้านหลักคอนเทนท์นักกีฬาไทยและโอลิมปิก ปารีส 2024 อย่าง StadiumTH ทั้ง website Facebook Tiktok IG ได้ยอดการมองเห็นมากกว่า 50 ล้าน Reach นับตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. – 11 ส.ค. 2567 ได้สร้างยอดตัวเลข Overall Performance สูงสุด โดยมียอด Impression มากกว่า 30 ล้าน ยอด Reach กว่า 54 ล้าน Reach ยอด View สูงถึง 30 ล้านวิว และยอด Engagement ใน Social Media จากแพลตฟอร์ม Wisesight มากกว่า 130 ล้าน Engagement
– สร้าง Wow กับการคอลแลปสุดแกลม ของเหล่านักกีฬาไทยบนพื้นที่หลัก Digital version ของ 3 นิตยสารไฮแฟชั่นระดับโลกเวอร์ชั่นภาษาไทย รวมถึงแบบฉบับตีพิมพ์ 3 หัวด้วยกัน Vogue, Bazaar, และ ELLE พลิกโฉมนักกีฬาจนเป็นที่ฮือฮาและชื่นชอบเป็นอย่างมาก
– ตอกย้ำความเชื่อและผลงานได้อย่างเป็นรูปธรรมที่สุด กับแนวคิด Beyond Sport หรือ โอลิมปิกฯ เป็นมากกว่ากีฬา โดยเห็นได้ชัดจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทุกแพลตฟอร์ม ที่กีฬาโอลิมปิกฯ ได้เข้าไป touch คนได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการรับรู้หยิบจับมาสร้างเป็นคอนเทนท์ทั้งในระดับของ Happening และ routine ในชีวิตประจำวัน ทั้งบนมิติของภาคกีฬา ในหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น เชิง Sport report/analysis, เชิงไลฟ์สไตล์ – City, วงการแฟชั่น การศึกษา การตลาด ที่เกิดการตื่นตัวทั้งในเชิง Creativity, Story telling รวมทั้งด้าน benefit returning ที่เกิดขึ้นแก่แบรนด์ นับตั้งแต่พิธีเปิด โดยผลตรวจวัดจาก Wisesight อ้างถึง stat performance ว่าเกิดการ Engagement กว่า 100 ล้านครั้ง บน Hashtag ของกิจกรรมที่มี Olympic เกี่ยวข้อง ตลอดระยะเวลาการแข่งขัน เป็นต้น
ความเคลื่อนไหวด้านการถ่ายทอดสด ● On-Air – เป็นการถ่ายทอดสดกีฬาที่มีช่องสัญญาณมากที่สุดในประวัติศาสตร์การถ่ายทอดสดฯประเทศไทย ถึง 21 ช่องสัญญาณ และมีทางเลือกให้คนไทยได้ดูทั้งบน TV และ OTT ครอบคลุมทุกช่องเพื่อให้คนทุกเจเนอเรชั่นได้รับชม เรตติ้งการออกอากาศของช่องฟรีทีวีหลัก เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ ระหว่างวันที่ 24 ก.ค. – 12 ส.ค. โดยมีตัวอย่างตัวเลขไฮไลท์ ดังนี้ ช่อง CH7 HD ในวันที่ 5 ส.ค. ในนัดชิงเหรียญทองแบดมินตันชาย ระหว่าง ไทย-เดนมาร์ก โดยนักกีฬาไทยคือ วิว กุลวุฒิ เรตติ้งออกอากาศสูงแตะ 5.51 รองลงมาคือวันที่ 7 ส.ค. นัดชิงเทควันโด้ ระหว่าง ไทยซาอุดิอาระเบีย ของเทนนิส พานิภัค อยู่ที่ 4.91 ช่อง PPTV HD 36 เริ่มเคลื่อนไหวตั้งแต่ วันที่ 31 ก.ค. ในของ เมย์ รัชนก การแข่งขันแบดมินตันหญิงเดี่ยวรอบแบ่งกลุ่ม ไทย-ไต้หวัน เรตติ้งแตะสูงที่ 3.60 รองลงมาไม่ห่างมากคือ นัดชิงเหรียญทองแบดมินตันชาย ระหว่าง ไทย-เดนมาร์ก โดย วิว กุลวุฒิ เรตติ้งออกอากาศ 3.47 ส่วน MCOT HD วันที่ 7 ส.ค. นัดชิงเทควันโด้ ระหว่าง ไทยซาอุดิอาระเบีย ของเทนนิส พานิภัค สูงสุดอยู่ที่ 2.60 – ช่องทาง AIS Play รวมจากเว็บไซท์ แอพลิเคชั่น และ IPTV Box นั้น มียอดคนเข้าชมผ่านทุกช่องทางของ AIS Play สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1.4 ล้าน Unique Users หรือกว่า 133 ล้านวิว รวมทั้งสิ้น 1,562 ล้านนาที จาก 24 ช่องถ่ายทอดสด
โดยในส่วนของ“วิดีโอรีรัน” ที่มีการรับชมมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1. วิว กุลวุฒิ รอบรองชนะเลิศ ไทย-มาเลเซีย 2. เทนนิส พานิภัค รอบชิงชนะเลิศ ไทย-จีน 3.เทนนิส พานิภัค รอบรองชนะเลิศ ไทย-โครเอเชีย และด้าน“วิดีโอไฮไลต์” ที่มีการรับชมมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.วิว กุลวุฒิ รอบ8คน ไทย-จีน 2.บิว ภูริพล วิ่ง 100 เมตรรอบก่อนรองชนะเลิศ 3.บาส-ปอป้อ แบดมินตันคู่ผสมรอบแบ่งกลุ่ม ไทย-แอลจีเรีย
- On-Ground
– ครั้งแรกของการเปิดพื้นที่จัดนิทรรศการในไทยเกี่ยวกับกีฬาในรูปแบบ Education Exhibition กึ่งถาวรตลอดช่วงเวลาการแข่งขันกีฬาฯที่ “Olympic Park@Samyan Mitrtown ซึ่งพบว่าตัวเลขผู้เข้าชมงานนิทรรศการทั้ง 16 วัน มีมากกว่า 100,000 คน และเกิด Online Viral Moment มากมายในช่วงถ่ายทอดสดแมตช์สำคัญ
– เกิดกระแสในกลุ่ม Urbanizer ชักชวนกันไปร่วมบรรยากาศ ดูจอในวันที่มีการถ่ายทอดสดแมตช์สำคัญขึ้นจอ OOH ทั้งบน/ใน อาคารบนสะพานทางเชื่อมหรือ Sky walk หรือที่เซ็นเตอร์พอยท์สยามเซ็นเตอร์
ในส่วนของพันธมิตรบรอดคาสเตอร์ และส่วนของกลุ่มผู้สนับสนุนการแข่งขัน
– เสียงสะท้อนจากแบรนด์พาร์ทเนอร์ถึงความพึงพอใจในผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม พบว่าอยู่ในระดับประเมิน ++ โดยระบุตรงกันว่าแนวคิดและกรอบการทำงานที่ชัดเจนว่า กีฬาใดก็สามารถนำมาเบลนอินต่อยอดให้กลมกลืนกับคาแรคเตอร์ของแบรนด์ได้ รวมถึงสามารถสอดแทรกสิ่งที่แบรนด์ต้องการนำเสนอ ได้อย่างกลมกล่อมลงตัว ตอบโจทย์การใช้เม็ดเงินได้คุ้มค่า ซึ่งแน่นอนว่าในฐานะที่ได้เห็นความเคลื่อนไหวทั้งด้านตัวเลขรวมไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงสังคม ไม่มากเกินไปที่จะกล่าวว่า มหกรรมกีฬาระดับโลก ปารีส 2024
สร้างมิติใหม่ด้านการสื่อสารในทุกช่องทางและทุกแพลตฟอร์มในประเทศไทย และได้ยกระดับประสบการณ์การชมและการได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งให้แก่ทุกกลุ่มผู้ชม/กลุ่มเป้าหมาย ชาวไทยอย่างแท้จริง