บริษัท เงินเรื่องจิ๊บ จำกัด จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวธุรกิจ “bagforcash” กระเป๋าแลกเงิน ธุรกิจรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์สำหรับสาวกแบรนด์เนมที่ต้องการใช้เงินด่วนภายใต้คอนเซ็ปต์ “เปลี่ยนกระเป๋าของคุณให้เป็นสภาพคล่อง bagforcash กระเป๋าแลกเงิน” หวังเปิดตลาดใหม่รองรับความต้องการ การผันกระเป๋าใบโปรดเป็นเงินยามฉุกเฉิน เจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทยที่ให้ดอกเบี้ยเรทดีที่สุด 1.25% ต่อเดือน รวดเร็วทันใจด้วยการประเมินผลรับเงินใน 45 นาทีจากทีมผู้เชี่ยวชาญและระบบ AI ที่ทันสมัยและแม่นยำ ให้ราคาสูง เป็นธรรม ไม่กดราคา พร้อมตู้นิรภัยมาตรฐานระดับโลก เก็บรักษากระเป๋าแบบ 1 ต่อ 1 หายห่วงเรื่องความปลอดภัย นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของตลาดแบรนด์เนมที่เพิ่มความหลากหลายทางเลือกของการใช้เงินสดแบบเร่งด่วน ด้วยความพร้อมและจุดยืนที่ชัดเจนในกลุ่มตลาดเงินด่วนระดับพรีเมียม คาด bagforcash จะเป็นที่ 1 ในตลาดเงินด่วนที่ถูกต้องกฎหมาย รวมถึงทีมงานคุณภาพตั้งแต่ผู้ร่วมก่อตั้ง พาร์ทเนอร์ เทคโนโลยี บุลลากร และ แหล่งเงินทุนทั้งหมดจะสามารถผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องภายใต้บริษัท เงินเรื่องจิ๊บ
คุณเสาวนีย์ ผไทวณิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เงินเรื่องจิ๊บ จำกัด กล่าวว่า “bagforcash จุดเริ่มต้นมาจาก passion ของตัวเองที่มีความชื่นชอบและหลงใหลในกระเป๋าแบรนด์เนมมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เรียกว่าศึกษาจนเกิดความเข้าใจจนชำนาญ เพราะอินและสนุกไปกับมันจริงๆ พอเริ่มทำงานสิ่งแรกที่อยากซื้อคือ กระเป๋า เรียกได้ว่าความสำเร็จส่วนนึงมีกระเป๋าเป็นแรงขับเคลื่อนจริงๆ ทำงานหนักขึ้นเพราะกระเป๋า กระเป๋าจึงเป็นของสะสมของจิ๊บ โดยส่วนตัวมองว่ากระเป๋าคือการลงทุนที่ฉลาดไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย เนื่องจากราคากระเป๋าขึ้นทุกปี อย่างน้อย 10%”
“ย้อนกลับไปสมัยที่ซื้อ-ขายกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านทางเว็บไซต์ได้ กระเป๋าใบไหนใช้เบื่อก็ขายออกทำกำไร จึงสนุกไปกับมันเพราะทั้งได้ใช้และได้กำไร จึงเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจกระเป๋าแบบสนุกๆ ซื้อมาขายไป จนเริ่มเป็นรับซื้อจึงได้รู้จักลูกค้ามากขึ้น จับพลัดจับผลูเป็นลูกค้าอยากยืมเงินเลยเอากระเป๋ามาค้ำประกันให้ดอกเบี้ย เรามองว่าได้ทั้งค่าตอบแทนและยังได้ ช่วยเหลือคนในยามฉุกเฉินซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และไม่ได้เสี่ยงอะไร และเราเห็นว่าธุรกิจนี้สามารถโตได้ จึงเริ่มทำ research พบว่าร้านขายกระเป๋าในปัจจุบันหันมารับจำนำกลายๆ โดยคิดดอกเบี้ย 5-10% ต่อเดือน ซึ่งเป็นอัตราท่สูงและเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดกับโรงรับจำนำก็เริ่มหันมารับจำนำกระเป๋าแบรนด์เนมกัน แต่ติดตรงที่ใบอนุญาตโรงรับจำนำสามารถให้วงเงินได้แค่ 100,000 บาท ต่อราย ซึ่งในขณะที่กระเป๋าส่วนใหญ่มูลค่าสูงกว่าเยอะ”
“ด้วย pain point ตรงนี้ bagforcash จึงเกิดขึ้นเพื่อมาเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหา โดยวางระบบให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่สุด พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการใช้เงินด่วน ให้ราคาอย่างเป็นธรรม เรายังนำ technology มาช่วยให้ธุรกิจนี้สามารถเติบโตรวดเร็ว มีความแม่นยำ พร้อมเทรนนิ่งบุคลากรอย่างมืออาชีพในเรื่องของการบริการลูกค้า การเก็บรักษาความลับซึ่งเราให้ความสำคัญสูงสุด ให้ลูกค้าได้มั่นใจเลือกมาใช้บริการกับเรา”
“นอกจากนี้เรายังมีบริการตู้นิรภัย ซึ่งได้มาตรฐานระดับโลกเพื่อช่วยลูกค้าเก็บรักษากระเป๋าแบบ 1 ต่อ 1 ในตู้ที่มีความปลอดภัยและอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เซอร์วิสนี้จะเหมาะกับลูกค้าที่ต้องการเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่ากระเป๋าคุณจะปลอดภัย อุ่นใจเมื่อฝากไว้ที่เราบริการเริ่มต้น 7 วัน ค่าบริการเริ่มต้นเพียง 1,000 บาทเท่านั้น”
ทั้งนี้เรายังเป็นพาร์ทเนอร์กับ Ookbee (อุ๊คบี) บริษัท เทคสตาร์ทอัพที่แข็งแกร่ง มีประสบการณ์ และลูกค้าหลากหลายมากมาย จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากของ bagforcash ที่มี คุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ Co-founder และได้เข้ามาช่วยพัฒนาเว็บแอปพลิเคชัน IT ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านต่าง ๆ ให้ทั้งหมด ลูกค้าของเราจึงมั่นใจได้ว่า เรามีระบบที่สามารถรองรับได้อย่างสมบูรณ์และเชื่อถือได้ ใช้งานได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย” คุณเสาวนีย์ กล่าวเสริม
อุ่นใจเสมอเมื่อเดือดร้อนเรื่องเงิน “bagforcash” กระเป๋าแลกเงิน พร้อมเป็นทางออกสำหรับทุกคนที่รักกระเป๋าให้บริการในช่วงแรกดังนี้
- การขายฝากกระเป๋า หรือ การเปลี่ยนกระเป๋าเป็นเงินได้ง่าย ๆ ขั้นตอนไม่ยุ่งยากและถูกกฎหมาย ผ่านเว็บ แอปพลิเคชัน www.bagforcash.com ดอกเบี้ยต่ำเพียง 1.25% ต่อเดือน ไม่กดราคา และที่สำคัญ โอนไวใน 45 นาทีตั้งแต่ที่รับกระเป๋า
- ตู้นิรภัยรับฝากกระเป๋า รับฝากตั้งแต่ 7 วันขึ้นไป โดยเริ่มต้นรับฝาก 7 วัน ที่ 1,000 บาท และยังมีบริการรับส่งถึงบ้าน ความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก เก็บในตู้นิรภัยแบบ 1 ต่อ 1 ในห้องควบคุมในอุณหภูมิ และในอนาคต bagforcash จะมี Service รับตรวจกระเป๋าด้วยเทคโนโลยี AI และผู้เชี่ยวชาญอีกขั้น ซึ่งมีประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 10 ปีของทุกแบรนด์ในตลาด
