ASICS (เอสิคซ์) เปิดตัวรองเท้า 2 รุ่นใหม่จากซีรีส์เรือธงหลัก METASPEED™ ได้แก่ METASPEED™ SKY PARIS และ METASPEED™ EDGE PARIS ที่ได้ผสานเทคโนโลยีขั้นสูงจาก ASICS เพื่อสนับสนุนเหล่านักวิ่งมากประสบการณ์ให้สามารถสร้างสถิติใหม่ ๆ ทลายข้อจำกัดและพร้อมพุ่งทะยานสู่ทุกเส้นชัย พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทย 11 เมษายนนี้
รองเท้าทั้ง 2 รุ่นใหม่ ถือเป็นผลลัพธ์จากกระบวนการทดสอบและการออกแบบที่เข้มข้นโดย ASICS Institute of Sport Science (ISS) และผ่านการทดสอบจากผู้เข้าร่วมทดลองจำนวนมากรวมถึงนักกีฬาชั้นยอดกว่าร้อยคนจากทั่วโลก ซึ่ง METASPEED™ ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นโดยตัวรองเท้ามีน้ำหนักเบาลง มอบสัมผัสที่นุ่มสบายและเด้งกว่าเดิม พร้อมปรับปรุงในส่วนของแผ่นคาร์บอนโดยออกแบบให้เต็มความยาวเท้า
คอนเซ็ปต์ของรองเท้าวิ่งซีรีส์ METASPEED™
ในปี 2021 ASICS ถือเป็นแบรนด์รองเท้าระดับโลกแบรนด์แรกที่ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวรองเท้าวิ่งสำหรับการแข่งขันรุ่นใหม่ 2 คู่พร้อมกัน คือ METASPEED™ SKY และ METASPEED™ EDGE ซึ่งได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสไตล์การวิ่งที่แตกต่างกันสองสไตล์โดยเฉพาะ
ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังรองเท้าทั้งสองรุ่นนี้ ซึ่งใช้ชื่อว่า “C-Project” ได้ริเริ่มแนวคิดใหม่โดยใช้แนวทางการออกแบบรองเท้าที่ยึดผู้สวมใส่เป็นสำคัญ เพราะเล็งเห็นว่ารองเท้าวิ่งในสมัยนั้นทำมาเพื่อตอบโจทย์นักวิ่งเพียงประเภทเดียว แต่ ASICS สามารถช่วยให้นักกีฬาชั้นยอด (Elite Athletes) เหล่านั้นก้าวไปสู่จุดสูงสุดได้ และเป็นครั้งแรกที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องปรับสไตล์การวิ่งของตนเองไปตามรองเท้าที่ใส่ ในทางกลับกัน ASICS พร้อมมอบรองเท้าที่ดีที่สุดเพื่อซัพพอร์ตสไตล์การวิ่งของพวกเขา
ASICS เลือกแบ่งกลุ่มตามรูปแบบการวิ่งหลักทั้งสองรูปแบบ ได้แก่ นักวิ่งสายสไตรด์ (STRIDE) เป็นกลุ่มที่มีท่าทางการวิ่งแบบก้าวยาว ซึ่งจะเพิ่มความเร็วโดยการขยายระยะในการก้าวขา
อีกประเภทหนึ่งเรียกว่าสายเคเดนซ์ (CADENCE) ความแตกต่างที่สำคัญคือนักวิ่งสายนี้จะเพิ่มความเร็วโดยการขยายระยะในการก้าวขาและเพิ่มจำนวนการก้าวเท้าต่อนาที (รอบขา) ให้มากขึ้น
รองเท้ารุ่นใหม่ทั้ง 2 คู่นี้ ได้รับการปรับให้เหมาะสำหรับแต่ละสไตล์การวิ่ง โดย METASPEED™ SKY PARIS เหมาะกับนักวิ่งสายสไตรด์ (STRIDE) และ METASPEED™ EDGE PARIS เหมาะกับนักวิ่งสายเคเดนซ์ (CADENCE) สิ่งสำคัญที่สุดคือการออกแบบที่อัปเกรดใหม่จากรุ่นก่อนหน้า ซึ่งช่วยให้นักวิ่งมีท่าทางการวิ่งที่เหมาะสม ช่วยรองรับการกระแทก และปรับลักษณะการวางเท้าในขณะที่นักวิ่งเริ่มเหนื่อยล้า จึงช่วยประหยัดแรงและพลังงานให้นักวิ่งสามารถนำไปใช้ในช่วงเวลาที่สำคัญของการแข่งขัน
การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง สู่ความเป็นที่สุดของรองเท้าวิ่ง
รองเท้า METASPEED™ SKY PARIS และ METASPEED™ EDGE PARIS รุ่นใหม่ได้รับการปรับปรุงใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ ด้านที่ 1 ทำให้ตัวรองเท้ามีน้ำหนักเบาลงประมาณ 22 กรัม ความแตกต่างของน้ำหนักที่ลดลงอย่างชัดเจนนี้ ช่วยให้นักวิ่งรู้สึกเบาสบายและดีดตัวได้ดีในวันแข่งขัน ส่วนหนึ่งจากความสำเร็จนี้เกิดจากการผสมผสานของ MOTION WRAP™ UPPER 2.0 รุ่นใหม่ ซึ่งทำให้ส่วนบนของรองเท้าเบาลงและระบายอากาศได้มากขึ้นถึง 8% รวมทั้งการเพิ่มโฟม FF TURBO PLUS ที่พื้นรองเท้าชั้นกลางอีกด้วย
การปรับปรุงในด้านที่ 2 คือการใช้โฟม FF TURBO PLUS ที่พื้นรองเท้าชั้นกลาง ซึ่งมีน้ำหนักเบาลง ให้ความนุ่มสบายและเด้งมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ อีกทั้งโฟมรองรับแรงกระแทกที่เพิ่มเข้ามานี้ช่วยซัพพอร์ตนักกีฬาสำหรับการวิ่งระยะไกลทั้งในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน เพื่อให้พวกเขาสามารถเก็บแรงไว้ใช้ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ได้รับการปรับปรุงใน METASPEED SKY PARIS คือการขยายคาร์บอนเต็มแผ่นให้กว้างขึ้นในบริเวณส่วนหน้าของรองเท้า ซึ่งเป็นกลยุทธ์การวางตำแหน่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดีดตัวของโฟมขณะออกตัววิ่ง และสำหรับ METASPEED EDGE PARIS ได้มีการวางตำแหน่งแผ่นคาร์บอนไว้ให้เหมาะสำหรับนักวิ่งสายเคเดนซ์ (CADENCE) และได้ปรับปรุงให้มีดีไซน์เรียบง่ายเพื่อความสะดวกในการสวมใส่และน้ำหนักที่เบาขึ้น ส่วนหน้าเท้ายังได้รับการออกแบบใหม่ล่าสุดโดยอาศัยการวิเคราะห์จากทีมพัฒนาของ ASICS เพื่อการซัพพอร์ตส่วนโค้งของเท้าที่ดีขึ้น มอบสัมผัสที่มั่นคงให้คุณสปีดฝีเท้าได้อย่างมั่นใจ
ปรัชญาด้านการออกแบบของ ASICS
หัวใจสำคัญของการสร้างสรรค์ METASPEED™ SKY PARIS และ METASPEED™ EDGE PARIS คือปรัชญาด้านการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของ ASICS ด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการคิดค้นผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่เหนือชั้น ซึ่งได้รับการรับรองโดย Institute of Sport Science (ISS) และนักกีฬาชั้นยอดของ ASICS
“เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน ๆ รองเท้า METASPEED SKY PARIS ได้รับการพัฒนาให้มีน้ำหนักเบาและนุ่ม เด้งกว่าเดิม ซึ่งทำให้ผมรู้สึกมั่นใจในการสร้างสถิติใหม่ให้กับตนเอง” วินเซนต์ คิปคิมอย เอ็นเกอิช (Vincent Kipkemoi Ngeitch) ผู้เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่สองในการแข่งขัน Berlin Marathon 2023 ได้กล่าวไว้
โทโมกิ โอตะ (Tomoki Ota) หนึ่งในนักวิ่งระยะไกลอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “ส่วนรองรับแรงกระแทกที่มีน้ำหนักเบาและความรู้สึกมั่นคงในทุกย่างก้าว เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของรองเท้า METASPEED EDGE PARIS มันให้ความรู้สึกนุ่มสบายและมอบพลังให้ผมได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ผมสามารถรักษาฝีเท้าได้ไม่มีตก แม้ในช่วงท้ายของการแข่งขัน”
ชูเฮ ทาเคมูระ (Shuhei Takemura) หัวหน้าทีมพัฒนารองเท้าซีรีส์ METASPEED ที่ ASICS กล่าวว่า “ปี 2024 ถือเป็นปีที่สำคัญอย่างยิ่งของวงการกีฬาวิ่งและเรารู้สึกภูมิใจที่ได้เปิดตัวรองเท้า METASPEED™ SKY PARIS และ METASPEED™ EDGE PARIS ในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลการแข่งขัน รองเท้ารุ่นนี้เกิดจากการทำงานอย่างพิถีพิถันโดยทีมงานของเราที่ Institute of Sport Science (ISS) ซึ่งได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและนักกีฬาจากทั่วโลกเพื่อมอบสุดยอดรองเท้าสำหรับการแข่งขันให้กับแบรนด์ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารองเท้ารุ่นใหม่นี้จะมอบพลังที่จะช่วยให้นักกีฬาของเราเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นตัวขยายขีดความสามารถให้พวกเขาคว้าสถิติที่ดีที่สุดให้กับตนเองและประสบความสำเร็จในการแข่งขันตลอดทั้งปี”
รองเท้า METASPEED™ SKY PARIS และ METASPEED™ EDGE PARIS เตรียมวางจำหน่ายในประเทศไทยในวันที่ 11 เมษายน 2567 เป็นต้นไป ทั้งโมเดลสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ในราคา 8,500 บาท ที่ ASICS Store สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, Supersports, ARI, Run2Paradise และ Banana Run รวมถึงทางออนไลน์ที่ ASICS.COM
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ METASPEED™ SKY PARIS, METASPEED™ EDGE PARIS และเทคโนโลยีใหม่ ๆ จาก ASICS ได้ทางเว็บไซต์ ASICS.COM
เพียงสมัครสมาชิก OneASICS (https://www.asics.com/th/en-th/mk/oneasicsth) วันนี้ รับส่วนลดทันที 15% สำหรับการซื้อสินค้าครั้งแรก ที่ ASICS.COM (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ)
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ASICS ได้ที่:
Website: ASICS.COM
LINE Official: @ASICSTH
Facebook: ASICS
Instagram: @ASICSTH
หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ จากทาง ASICS Running Club Thailand ได้ที่
Facebook: ASICS Running Club Thailand
#ASICSTH #METASPEED #METASPEEDPARIS #MoveYourMind #SoundMindSoundBody