เป๊ปซี่โคจัดหาแหล่งน้ำสะอาดให้คนทั่วโลกอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน
เป๊ปซี่โค เผยแพร่รายงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, and Governance หรือ ESG) เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 ซึ่งถือเป็นรายงาน ESG ฉบับแรกนับตั้งแต่เปิดตัวกลยุทธ์ PepsiCo Positive (pep+) ที่มุ่งปรับโฉมธุรกิจในทุกขั้นตอนด้วยการนำเรื่องความยั่งยืนและการพัฒนาคนเข้ามาเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจและคุณค่าให้กับสังคม โดยรายงาน ESG ปี 2564 ถือเป็นการยกระดับจากรายงานด้านความยั่งยืนแบบเดิมของเป๊ปซี่โค และมุ่งแสดงวิธีการที่บริษัทใช้ในการยกระดับแบรนด์และชีวิตของผู้คน รวมถึงการขยายผลเพื่อสร้างแนวทางใหม่ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกเพื่อคนและโลก อีกทั้งยังเน้นถึงความก้าวหน้าตามพันธกิจที่เคยประกาศไว้ ซึ่งมีเป็นเป้าหมายที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรมนี้
เป๊ปซี่โคได้ผนวกกลยุทธ์ pep+ เข้ามาในทุกส่วนของธุรกิจ โดยในรายงาน ESG ปี 2564 ได้กล่าวถึงรายละเอียดเรื่องความก้าวหน้าและแสดงตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงจากทั้ง 3 เสาหลักภายใต้กลยุทธ์ ซึ่งประกอบด้วยการเกษตรเพื่อโลก (Positive Agriculture) ห่วงโซ่คุณค่าเชิงบวก (Positive Value Chain) และทางเลือกเชิงบวก (Positive Choices) โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่
การเกษตรเพื่อโลก (Positive Agriculture)
o ส่งเสริมให้เกษตรกรทำการเกษตรเชิงปฏิรูปเพื่อฟื้นฟูสภาพดินแล้วมากกว่า 345,000 เอเคอร์ (ราว 872,000 ไร่) ถือเป็นความก้าวหน้าตามเป้าหมายที่เป๊ปซี่โควางไว้ว่าจะส่งเสริมให้ได้ 7 ล้านเอเคอร์ (ราว 17 ล้านไร่) ภายในปี 2573 ซึ่งเทียบเท่ากับขนาดของพื้นที่เกษตรกรรมที่เพาะปลูกผลผลิตทั้งหมดของเป๊ปซี่โค
o ส่งเสริมความเป็นอยู่ของเกษตรกรสตรีและชุมชนในพื้นที่ห่างไกล ผ่านโครงการต่างๆ เช่น การสนับสนุนเงิน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐผ่านองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการสตรี และสนับสนุนเงิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่กองทุนเกษตรกรรมเพื่อคนรุ่นใหม่ของธนาคารเพื่อการพัฒนาระหว่างทวีปอเมริกา (Inter-American Development Bank – IADB) เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทมุ่งผลักดันเรื่องความเท่าเทียมทางเพศในซัพพลายเชนทางการเกษตรทั้งหมดของบริษัท ในสาธารณรัฐโดมินิกัน เอกวาดอร์ และกัวเตมาลา โครงการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเป๊ปซี่โคมีความก้าวหน้าตามเป้าหมาย pep+ ในการยกระดับความเป็นอยู่ของผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ในซัพพลายเชนการเกษตรของบริษัท รวมถึงชุมชนโดยรอบมากกว่า 250,000 คนในหลายด้าน รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับสตรี
ห่วงโซ่คุณค่าเชิงบวก (Positive Value Chain)
o บริษัทลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรง (Scope 1) และทางอ้อม (Scope 2) ลง 25% เมื่อเทียบกับตัวเลขปี 2558 โดยในโรงงานผลิตที่บริษัทดำเนินการเองทั่วโลกได้เปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนแล้วมากกว่า 70% การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมที่ไม่เกี่ยวกับการผลิต (Scope 3) ในปี 2564 คิดเป็นสัดส่วน 93% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดของบริษัท ซึ่งเพิ่มขึ้น 5%[1] เมื่อเทียบกับตัวเลขปี 2558 เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจเป๊ปซี่โคสูงขึ้นเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
o เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำในกระบวนการผลิตขึ้น 18% ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงเรื่องการขาดแคลนน้ำ เมื่อเทียบกับตัวเลขปี 2558 ซึ่งถือว่าก้าวหน้าตามเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้ 25% ภายในปี 2568[2] ในปี 2564 บริษัทสามารถบำบัดน้ำจากการผลิตและปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติในท้องถิ่นได้ถึง 34%[3] หรือเทียบเท่ากับปริมาณน้ำมากกว่า 6,100 ล้านลิตร นอกจากนี้ เป๊ปซี่โคยังจัดหาแหล่งน้ำสะอาดให้คนทั่วโลกอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน ช่วยให้คนเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดเหล่านั้นแล้วกว่า 68 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งถือว่าดำเนินมาครึ่งทางของเป้าหมายที่จะจัดหาแหล่งน้ำสะอาดให้คน 100 ล้านคนทั่วโลกภายในปี 2573
o ในสหรัฐ เป๊ปซี่โคมีสัดส่วนผู้บริหารที่เป็นคนผิวสี 8.3% และผู้บริหารที่มีเชื้อสายลาติน 9.5% จากเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนผู้บริหารจากคนทั้งสองกลุ่มขึ้นเป็น 10% ภายในปี 2568 ในขณะที่ผู้บริหารที่เป็นสตรีทั่วโลกมีสัดส่วน 43% เทียบกับเป้าหมายที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 50% ให้ได้ภายในปี 2568
ทางเลือกเชิงบวก (Positive Choices)
o เป๊ปซี่โคทำตามเป้าหมายได้สำเร็จล่วงหน้า 4 ปีก่อนกำหนดที่ตั้งไว้คือปี 2564 โดยลดสัดส่วนการใช้ไขมันอิ่มตัวลง 75%2 ในพอร์ทโฟลิโออาหารสำเร็จรูป[4] ซึ่งมีไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 1.1 กรัมต่อปริมาณอาหาร 100 แคลอรี่ นอกจากนี้ 53% ของพอร์ทโฟลิโอเครื่องดื่มทั้งหมดของเป๊ปซี่โค มีแคลอรี่จากน้ำตาลน้อยกว่า 100 แคลอรี่ต่อปริมาณเครื่องดื่ม 12 ออนซ์[5] และ 66% ของพอร์ทโฟลิโออาหารสำเร็จรูปมีโซเดียมไม่เกิน 1.3 มิลลิกรัมต่อปริมาณอาหาร 1 แคลอรี่[6]
จิม แอนดรูว์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืน เป๊ปซี่โค กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นและการทำงานเพื่อสร้างระบบการผลิตอาหารที่มีความยั่งยืนและยืดหยุ่นมากขึ้นของเป๊ปซี่โคจะดำเนินไปอย่างไม่หยุดยั้ง เราภูมิใจในความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในปี 2564 ซึ่งจะทำให้เราก้าวไปถึงเป้าหมายใหม่ตาม pep+ ที่ประกาศไว้ วัตถุประสงค์ของเราคือการทำงานทั้งสองด้านควบคู่กันเพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ในขณะเดียวกันก็ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยังมีสิ่งที่เราต้องทำอีกมากและเป๊ปซี่โคคงไม่สามารถทำเพียงคนเดียวได้ ดังนั้นเราจึงร่วมกับพันธมิตรในห่วงโซ่คุณค่า ชุมชน องค์กรพัฒนาเอกชน และผู้นำรัฐบาล ในการลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงการ และนวัตกรรม รวมถึงความร่วมมือต่างๆ เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้นให้กลายเป็นจริง”
รายงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ปี 2564 ในรูปแบบดิจิทัลยังออกแบบมาให้เชื่อมโยงกับหัวข้อถาม-ตอบ ESG Topics A-Z ของเป๊ปซี่โค ที่มีหัวข้อเกี่ยวกับการดำเนินงานและความก้าวหน้าด้านความยั่งยืนของบริษัทราว 50 หัวข้อ นอกจากเป๊ปซี่โคจะเปิดเผยรายงานอย่างโปร่งใส่แล้ว บริษัทยังจะตีพิมพ์รายงาน ESG อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีอีกด้วย