อาลีบาบา กรุ๊ป ได้ประกาศความสำเร็จในการปิดฉากมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 (“11.11”) ประจำปี ครั้งที่ 14 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พร้อมกับผลลัพธ์ของยอด GMV ที่สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของปีที่แล้ว แม้ท่ามกลางความท้าทายระดับมหาภาค และผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19
จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนแบรนด์ที่จัดให้มี Loyalty Programs ผ่านร้านค้าของตนบน ทีมอลล์ (Tmall) เพื่อดึงดูดลูกค้า ส่งผลให้ยอดการสั่งซื้อจากสมาชิกของแบรนด์ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ใน 4 ชั่วโมงแรกของการช้อปปิ้งในช่วงที่สอง ซึ่งเริ่มตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของวันที่ 10 พฤศจิกายน มีผู้ค้ามากกว่า 130 แบรนด์ สามารถทำรายได้เกิน 100 ล้านหยวน (กว่า 500 ล้านบาท) จากยอด GMV ที่มาจากการซื้อของลูกค้าสมาชิก ขณะที่ผู้ค้ามากกว่า 5,600 แบรนด์ ต่างประสบความสำเร็จกับยอด GMV ที่มาจากการซื้อของลูกค้าสมาชิก ซึ่งสูงเป็นสองเท่า เมื่อเทียบกับ 4 ชั่วโมงแรกของการช้อปปิ้งในช่วงที่สอง ของเมื่อปีที่แล้ว
“เราขอขอบคุณผู้ค้า และพันธมิตรทั้งหมดในระบบนิเวศของอาลีบาบา ที่ได้ทำงานร่วมกับเราอย่างเต็มศักยภาพ จนสามารถส่งมอบมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีการเติบโตที่มั่นคงและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น การทำงานร่วมกันครั้งนี้ ทำให้เราได้เห็นว่าภาคการบริโภคของจีนกำลังพลิกฟื้นกลับมา และมีชีวิตชีวามากขึ้น” ชุย เฉีย ประธานศูนย์พัฒนาและปฏิบัติการอุตสาหกรรมของเถาเป่าและทีมอลล์ แห่งอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว “สิ่งที่เราให้ความสำคัญสำหรับ 11.11 ปีนี้คือ การเพิ่มความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจแก่ผู้ค้าของเรา เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ช่วยให้แบรนด์และผู้ค้า สร้างฐานลูกค้าประจำรายใหม่ๆ ได้ในช่วงมหกรรม ซึ่งถือเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการดำเนินธุรกิจในระยะยาวของพวกเขา นอกจากนี้ เรายังได้เห็นศักยภาพอันไร้ขีดกำจัด ที่เกิดขึ้นจากแนวโน้มการบริโภคใหม่ๆ และเราก็จะยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรม และเสริมสร้างศักยภาพขององค์กรต่อไป เพื่อส่งมอบโอกาสอันแข็งแกร่งที่จะทำให้ผู้ค้าของเราเติบโตในระยะยาว ตลอดจนร่วมกันดำเนินงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา”
ทั้งนี้ ถือเป็นปีที่สองแล้วที่ 11.11 ดำเนินการบนคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ โดยปีนี้ เราได้เห็นพัฒนาการด้านประสิทธิภาพการประมวลผลที่ดีขึ้น จากการปรับใช้การประมวลผลประสิทธิภาพสูงและเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งทำให้ต้นทุนการประมวลผลต่อหน่วยทรัพยากรลดลง 8% เมื่อเทียบกับช่วงวันที่ 1 เมษายน ถึง 11 พฤศจิกายน ของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน ศูนย์ข้อมูลไฮเปอร์สเกล ทั้ง 5 แห่งของอาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) ทั่วประเทศจีน ก็สามารถเพิ่มปริมาณพลังงานสะอาด ที่ใช้เพื่อรองรับ 11.11 ในปีนี้ ได้เป็นสองเท่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ไฮไลท์อื่นๆ จากมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ประจำปี 2565
11.11 ปีนี้ได้นำเสนอสินค้ามากกว่า 290,000 แบรนด์จาก 7,000 หมวดหมู่ โดยมีผู้ค้าต่างประเทศเกือบ 40,000 แบรนด์ ครอบคลุมกว่า 90 ประเทศและภูมิภาค เข้าร่วมมหกรรมผ่าน ทีมอลล์ โกลบอล (Tmall Global) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มข้ามพรมแดนสำหรับสินค้านำเข้าของอาลีบาบา ผู้ค้าต่างประเทศ 1,009 แบรนด์ จากทั้งหมดนี้ สามารถสร้างการเติบโตของยอด GMV ได้มากกว่า 100% เมื่อเทียบปีต่อปี
การเติบโตของกลุ่มสินค้าต่างๆ บนทีมอลล์ อาทิ กลุ่มกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง กลุ่มของเล่นของสะสม และกลุ่มเครื่องประดับ ได้ดีดตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงมหกรรมที่ผ่านมา เห็นได้จาก หมวดหมู่ย่อยมากกว่า 400 หมวดหมู่ ที่ถือกำเนิดขึ้นภายใต้กลุ่มสินค้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเหล่านี้
กว่า 1.63 ล้านรายการสินค้าที่วางจำหน่ายบนทีมอลล์ในช่วง 11.11 นี้ ได้รับการติดฉลากผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปล่อยคาร์บอนต่ำ เพื่อส่งมอบตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากขึ้นแก่ผู้บริโภค ให้ครอบคลุมหมวดหมู่ที่หลากหลาย เช่น เครื่องแต่งกาย เครื่องสำอาง อาหาร และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ประหยัดพลังงาน
ไลฟ์สตรีมมิ่ง ยังคงเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญประกอบการตัดสินใจของผู้บริโภค ตลอดมหกรรม 11.11 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา มีผู้บริโภคมากกว่า 300 ล้านคน รับชมการไลฟ์สตรีมมิ่งที่จัดขึ้นบนเถาเป่า ไลฟ์ (Taobao Live) ขณะที่ 62 ช่องไลฟ์สตรีมที่โฮสท์โดยอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง สามารถทำยอด GMV ทะลุ 100 ล้านหยวน (กว่า 500 ล้านบาท) จากในจำนวนผู้ค้าอีกหลายร้อยคนที่สร้างยอด GMV จากการจัดไลฟ์สตรีมมิ่งได้สูงถึง 10 ล้านหยวน (กว่า 50 ล้านบาท) นอกจากนี้ เหล่าโฮสท์จากพื้นที่ห่างไกล ยังได้เสนอขายผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น ผ่านเซสชั่นไลฟ์สตรีมมิ่งบนเถาเป่า ไลฟ์ มากกว่า 100,000 เซสชั่น
11.11 ปีนี้ได้นำเสนอบริการ “ส่งถึงประตูบ้าน” (door-step delivery) ซึ่งกลายเป็นที่นิยมแพร่หลายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมหกรรม ด้วยพลังสนับสนุนจากศูนย์คัดแยกพัสดุที่ผ่านการปรับปรุงพัฒนาระบบอัตโนมัติ และระบบโลจิสติกส์ภายใต้การบริหารของไช่เหนียว (Cainiao) ทำให้ตลอดทั้งช่วงมหกรรม ไช่เหนียวสามารถจัดส่งพัสดุได้มากกว่า 120 ล้านชิ้น ถึงหน้าประตูบ้านของผู้บริโภค
ในช่วง 11.11 ไช่เหนียวได้เพิ่มจำนวนหุ่นยนต์ขนส่งอัตโนมัติ “เสี่ยวหมานหลีว์” (Xiaomanlv) (AGVs) อีกไม่ต่ำกว่า 700 คัน ครอบคลุมวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยต่างๆ กว่า 400 แห่งทั่วประเทศจีน โดยเสี่ยวหมานหลีว์ สามารถจัดส่งพัสดุเกือบ 2 ล้านชุดในช่วง 11.11 ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีที่แล้ว
ในช่วง 11.11 ไช่เหนียวยังได้เปิดตัวโครงการรีไซเคิลกล่องพัสดุ ในสถานีบริการไชเหนียว โพสต์ (Cainiao Post) มากกว่า 130,000 แห่ง โดยตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สามารถรีไซเคิลกล่องพัสดุได้มากเกือบ 4 ล้านกล่อง และผู้บริโภคมากกว่า 100,000 คนต่อวัน ได้ส่งพัสดุที่บรรจุโดยกล่องรีไซเคิลจากสถานีไช่เหนียว โพสต์ ในช่วง 11.11.
หมายเหตุ: เวลาทั้งหมดที่กล่าวถึงในข่าวประชาสัมพันธ์นี้อ้างอิงตามเวลาปักกิ่ง เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น ชุดข้อมูลที่รวมอยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นข้อมูลเฉพาะจากช่วงการขายทั้งหมดของมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2565 และสิ้นสุดในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 อัตราการเติบโตแบบปีต่อปี จะถูกเปรียบเทียบกับอัตราจากช่วงเดียวกัน ในปี 2564 ขณะที่ยอด GMV ที่เปิดเผยในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ หมายถึง มูลค่ารวมของคำสั่งซื้อในสกุลเงินหยวน (RMB) ที่ชำระผ่านอาลีเพย์ (Alipay) บนแพลตฟอร์มเถาเป่าและทีมอลล์ ของอาลีบาบา ซึ่งมีการรายงานตามเวลาจริง และรวมค่าจัดส่งที่ชำระแล้ว (ถ้ามี) อย่างไรก็ตาม ยอด GMV และตัวเลขอื่นๆ ที่นำเสนอในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ และอาจมีการปรับเปลี่ยนในภายหลัง