กระทรวงพลังงาน สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไทย-จีน (TSAST) และ Chinese Academy of Sciences, Innovation Cooperation Center Bangkok (CAS-ICCB) ร่วมกันประกาศการจัดงาน “2023 Green Technology Expo” สนับสนุน ​​​​UN Policy และนานาชาติ แก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate change อันเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อมนุษยชาติ และทุกชีวิต พร้อมสนับสนุนการพัฒนาแบบยั่งยืน (SDG) และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วย Bio-Circular-Green Economy (BCG Economy) และหนุนประเทศไทยเพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์รุ่นใหม่ Next Generation Automobile หนุนการประกอบธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งมอบโลกที่สวยงามให้คนรุ่นต่อไป 

ดร.วีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมโดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการผลิตทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกรรมมีผลต่อสิ่งแวดล้อม การเพิ่มพื้นที่เมือง และลดพื้นที่ป่า สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม เกิดการสะสม Green House Gas (GHG) เกินกว่าที่ธรรมชาติจะรับได้ จนเกิดปัญหาภาวะโลกร้อน หรือ Global Warming ย้อนกลับมามีผลกระทบต่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ภาคบริการ และการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างที่ทุกคนรับทราบ และเผชิญปัญหาร่วมกัน ซึ่งปัญหาดังกล่าวทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไข 

สำหรับประเทศไทย ได้ร่วมให้สัตยาบัน ในการประชุมนานาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก กรุงปารีส ที่จะร่วมลด GHG ให้ได้ร้อยละ 20-25 ในปี2573 เพื่อเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) และมีนโยบายส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าด้วยมาตรการทางภาษี ทั้งผู้ผลิต และผู้ใช้ เพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค กระทรวงพลังงานมีแผนพัฒนาพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก โดยกำหนดจะลดปริมาณ CO 2 ในการผลิตกระแสไฟฟ้า 1 หน่วย ให้เหลือครึ่งหนึ่ง ในปี 2580 และการจัดงาน “2023 Green Technology Expo” ครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมที่จำเป็นในศตวรรษหน้า โดยมีการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) และ ปตท. ร่วมสนองนโยบาย Next Generation Automobile และการดำเนินธุรกิจในอนาคต 

ดร. พิชัย สนแจ้ง เลขาธิการสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไทย-จีน กล่าวว่า สมาคมเห็นว่าการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนต้องเกิดจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนการผลิตและกระบวนการทั้งภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และบริการ ซึ่งต้องใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการพัฒนานวัตกรรม การจัด “2023 Green Technology Expo” ครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการกระจาย การใช้ การพัฒนาเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรม โดยเป็นพื้นที่ให้เกิดการพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างเจ้าของเทคโนโลยี นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ นักวิจัย และผู้สนใจทั่วไป ที่จะร่วมกันเสนอเทคโนโลยี และความคิดใหม่ ต่อยอดความรู้ แก้ปัญหา และสนองความต้องการ ซึ่งจะเกิดทั้งBusiness Matching และ Technology Matching สร้างธุรกิจที่สนองนโยบาย SDG และ BCG-Economic ของ UN และนโยบายของประเทศ 

Dr.Jiang Biao ผู้อำนวยการ CAS-ICCB กล่าวว่า CAS-ICCB ขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม และให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทย โดยยึดหลัก mutual benefit และ sincerity สำหรับความร่วมมือในการจัด 2023 Green Technology Expo ครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเกิดการยกระดับคุณภาพชีวิต กระจายเทคโนโลยีและการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา หรือร่วมปกป้อง ป้องกันวิกฤตและส่งต่อโลกที่สวยงามและยั่งยืนสู่คนรุ่นต่อ ๆ ไป ควบคู่กับการเติบโตทางธุรกิจ 

Mr.Yang Ming, TusPark WHA Representative รองประธานอาวุโสของ Tus-Holding Co., Ltd, รองประธาน Tus-S&T Service Co., Ltd. ได้กล่าวว่า Tus-Holding เป็นกลุ่มบริษัทร่วมลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมีศูนย์บ่มเพาะและอุทยานวิทยาศาสตร์ในเมืองใหญ่ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หน่วยงานวิจัย และกลุ่มบริษัท WHA และกล่าวว่าหนทางเดียวที่จะเผชิญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คือ ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวกับ Green Technology, Environment Protection, New Energy และอื่น ๆ ไม่ใช่เพื่อประเทศใด แต่เพื่อมนุษยชาติ 

2023 Green Technology Expo เป็นงานจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความสำคัญต่อโลกในอนาคต ภายใต้แนวคิด “Towards the Transition to Newer, Cleaner, Sustained ever Green Technology” โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ EV Mobility, Storage & Charger & Component, Green Energy และ Green Tech & Green Product การจัดการน้ำ มลพิษทางอากาศ การจัดการของเสีย เป็นต้น ซึ่งนอกจากการจัดแสดงเทคโนโลยีภายในงานแล้ว ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การบริการให้คําปรึกษาด้าน Green Energy ทั้งในระดับอุตสาหกรรมและครัวเรือน การเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับ Green Technology นโยบายและการส่งเสริมจากภาครัฐ รวมถึงการเจรจาธุรกิจและความร่วมมือด้านการพัฒนาเทคโนโลยี โดยงานกำหนดจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 9 – 12 พฤศจิกายน 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) Hall 98-99 

นอกจากนี้ ในงานแถลงข่าวการจัดงาน 2023 Green Technology Expo นี้ ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง สมาคมวิทยาศาสตร์ฯ และสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CCPIT) และ TusPark WHA เพื่อสนับสนุนการจัดงานโดยจัดหาเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการจีนเพื่อนำมาจัดแสดงในงาน 

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน พร้อมติดตามข้อมูลและข่าวสารของงาน 2023 Green Technology Expo เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.greentechnology-expo.com หรือที่เพจเฟซบุ๊ก Green Technology Expo

https://www.kaosanonline.com/?p=28898

By admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *