“สิงห์น้ำเงินคราม”เชลซี บวกถ้วยแชป์ให้กับสโมสรได้อีกในยุคของกุนซือชาวเยอรมัน โทมัส ทูเคิล หลัง ไค ฮาแวร์ตซ ทำประตูชี้ขาดในแมทช์ชิงดำได้อีก สังหารจุดโทษในช่วงท้ายของการต่อเวลาพิเศษ ดับฝัน พัลไมรัส ในนัดชิง คลับ เวิลด์ คัพ ที่ อาบู ดาบี ไปด้วยสกอร์ 2-1 เมื่อคืนวันเสาร์ บอสสิงห์บลูส์ ยอมรับเกือบไม่ได้มาร่วมฉลองแชมป์หลังกักตัวเพราะโควิดตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มั่นใจทุกคนต้องอิจฉา เชลซี ที่มีแชมป์ไปประดับที่สแตมฟอร์ด บริดจ์อีกแล้ว
เชลซี เวลานี้คือแชมป์โลกทีมใหม่ แต่ พัลไมรัส ก็ไม่ได้ยอมสิโรราบง่ายๆ เมื่อสามารถยันเสมอ ทีมแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไว้ได้ 1-1 หลังเกม 90 นาที หลังจากที่ โรเมลู ลูกากู เบิกสกอร์ให้ทีมจากลอนดอนออกนำ ก่อนที่เกมจะมาตัดสินด้วยลูกจุดโทษของ ไค ฮาแวตซ์ ในนาทีที่ 117 เป็นประตูหยิบแชมป์ให้ เชลซี อีกครั้งของ นักเตะเลือดเยอรมัน รายนี้ อย่างที่เคยทำได้ตอนเจอกับ ปอร์โต้ ในนัดชิงฟุตบอลยุโรป เมื่อปีที่แล้ว
ทูเคิล โค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี 2020/21 ได้แชมป์รายการที่ 3 กับ เชลซี นับตั้งแต่ย้ายมาลุยฟุตบอลอังกฤษในระยะหนึ่งปีกว่าเท่านั้น กล่าวกับทาง Channel 4 บอกว่า ” ความสำเร็จที่ อาบูดาบี เมื่อคืนวันเสาร์ “ผมคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่ต่อเนื่องของเชลซี และผมดีใจที่ได้รับโอกาส เราเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่ามันเป็นโอกาสที่เยี่ยมยอดมาก ทุกคนต้องอิจฉาเราที่เล่นเกมสำคัญอย่างนี้ เด็กผู้ชายทุกคนล้วนใฝ่ฝันที่จะได้เล่นในนนัดชิงชนะเลิศแบบนี้ จากนี้ยังมีอีกหลายถ้วยที่เราจะต้องทำได้ มันจะไม่หยุดแค่นี้แน่”
บอสทีมสิงห์บลูส์ เกือบจะพลาดโมเมนท์สำคัญกับทีมไปแล้วหลังจากที่ก่อนหน้านี้ต้องโดนกักตัวเป็นเวลา 5 วัน หลังจากที่ได้ผลตรวจเป็นบวกเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว โชคดีที่ผ่านการตรวจได้ผลออกมาเป็นลบ 2 ครั้งติดต่อกันเป็นการยืนยันให้เขาออกจากการโดนกักตัวได้
“ผมโดนจับตรวจหลายครั้งระหว่างที่ไปสนามบิน รวมถึงขากลับเพราะผลตรวจ PCR ไม่ได้ออกมาเป็นลบ จนเกือบจะไม่มีไฟลท์เหลือแล้ว เที่ยวบินนั้นคือเที่ยวบินสุดท้าย แต่ในที่สุด ก็ผ่านได้ ผมมาดินเนอร์ได้ทันคืนวันเสาร์ เสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสมีส่วนร่วมเลยในตอนซ้อม ผมได้แค่ประชุมทีม ทำทุกอย่างตามปกติได้ มาถึงวันแรกก็ตอนนี้ก็ต้องเตรียมกลับแล้ว”
เขาเผยว่าเขาเป็นผู้ชมที่แย่ขนาดไหนสำหรับเกมรอบเซมิไฟนอลที่ อัล-ฮิลาล “มันไม่สนุกเลยกับการชมเกมนั้นภายในออฟฟิศ ในฐานะโค้ชคุณต้องอยู่ที่ริมสนาม เกมนั้นผมเดินไปเดินมาไม่หยุดภายในออฟฟิศ ผมมี 2 จอใหญ่ที่ต้องดู จอหนึ่งสำหรับเกมการแข่งขัน และอีกจอเกี่ยวกับแท็คติก”
“ผมคุยติดต่อกันช่วงพักครึ่งและในครึ่งหลังกับผู้ช่วยของผม ใช่ว่าจะได้คุยกันยาวๆ มันเหมือนทุก 10 หรือ 15 นาทีมากกว่า มันพิลึกมากเพราะการโค้ชมันมีเรื่องของความรู้สึกด้วย คุณต้องส่งผ่านความรู้สึกให้ไปมีผลกระทบต่อทีม สำหรับผม คุณต้องการความใกล้ชิดกับเกมกับผู้เล่น”