มอลลี มาร์คูซ์ ซามานน์ ประธานบริหารของแอลพีจีเอ ทัวร์ เปิดใจกับสื่อมวลชนเอเชีย ครั้งแรก ตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่เป็นเวลา 6 เดือน โดยเน้นย้ำแนวทางแอลพีจีเอ ยังคงพัฒนาทัวร์เป็นรูปแบบโกลบอลทัวร์ และชื่นชมการเติบโตของกอล์ฟเอเชีย พร้อมกับชมเชยนักกอล์ฟไทยที่พัฒนาผลงานในทัวร์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
มอลลี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเอเชียผ่านเวอร์ชวลคอนเฟอเรนซ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2565 ที่เซนโตซา กอล์ฟ คลับ ประเทศสิงคโปร์ ช่วงเดินทางไปสิงคโปร์ ในระหว่างการแข่งขันกอล์ฟแอลพีจีเอ ทัวร์ รายการเอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ ซึ่งเธอเผยว่าตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสมาสิงคโปร์ และพบกับสื่อมวลชนเอเชียเป็นทางการครั้งแรก รวมทั้งได้มีโอกาสเห็นการจัดการแข่งขันรายการเอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ
ประธานบริหารแอลพีจีเอ ทัวร์ เผยว่า ตอนนี้ทางทัวร์ยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากพันธมิตรของเรา แม้ว่าช่วงสองปีที่ผ่านมา ต้องเผชิญกับความยากลำบากจากการระบาดของเชื้อโควิด -19 ในด้านของเงินรางวัลในการแข่งขัน จากเดิมที่เงินรางวัลรวมต่ำกว่า 70 ล้านดอลาร์สหรัฐ โดยปี 2019 เงินรางวัลรวม 67 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2022 เมื่อผ่านวิกฤตกลับมา เรามีเงินรางวัลที่เพิ่มขึ้น มีเงินรางวัลรวม 90.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะแข่งขันกว่า 34 รายการ
ผู้บริหารแอลพีจีเอ ยังได้พูดถึงความท้าทายของแอลพีจีเอ นั่นคือการทำงานในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อโควิด -19 ที่ต้องทำงานอย่างยากลำบาก แต่ก็พร้อมจะก้าวไปข้างหน้า เพราะพันธมิตรยังอยู่เคียงข้างกับแอลพีจีเอไม่ว่าจะเป็น เอชเอสบีซี และ เอออน รวมทั้งกลุ่มอื่น ๆ ยังคงยึดมั่นจะก้าวไปด้วยกัน
แอลพีจีเอ ยังทำงานกับเอปสัน ทัวร์ และเลดีส์ ยูโรเปียน ทัวร์ เป็นการร่วมกันพัฒนาเพื่อขับเคลื่อนโดยผ่านแอลพีจีเอ และยังมี แอลพีจีเอ ยูเอสจีเอ เกิร์ล กอล์ฟ โปรแกรมพัฒนานักกอล์ฟเยาวชน หรือแม้แต่ โพรเฟสชันแนลแอลพีจีเอ ที่มีกว่า 1,800 คน
นอกจากนี้ การทำงานกับสมาคมกอล์ฟแห่งสหรัฐอเมริกา (ยูเอสจีเอ) รายการยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น ก็มีเงินรางวัลเพิ่มเป็น 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีอีก 12 รายการ ที่เงินรางวัลรวมเพิ่มขึ้นโดยทางซีเอ็มอี เตรียมเพิ่มเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะเป็น 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนักกอล์ฟที่ได้สิทธิ์เข้าไปแข่งขันรายการซีเอ็มอี แชมเปียนชิพ จะได้รับอย่างแน่นอน 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ยังมีรางวัลใกล้ธงแต่ละหลุม Aon Risk Reward ของแต่ละรายการ อีกด้วย
ประธานบริหารแอลพีจีเอ ยังได้พูดถึง การแข่งขันในเอเชีย ที่ยังมุ่งมั่นทำงานต่อเช่นเดิม แอลพีจีเอ มีโปรแกรมแข่งขันในเอเชียในช่วงต้นฤดูกาล และปลายฤดูกาล พร้อมกันนี้ มอลลี ยังได้ชมการพัฒนากอล์ฟหญิงไทย ซึ่งเธอบอกว่านักกอล์ฟไทยได้สร้างผลงานได้อย่างน่าทึ่งในทัวร์ และเคยเล่นกอล์ฟกับ โปรโม โมรียา จุฑานุกาล ระหว่างโปรแอม และมอลลี ยังกล่าวอีกว่า กอล์ฟหญิงไทยกำลังก้าวไปด้วยดีในขณะนี้
ส่วนนักกอล์ฟเอเชียชาติอื่น ๆ นอกจากเกาหลีใต้ที่มีอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ยังมี ญี่ปุ่น เห็นได้ชัดเจน ทั้ง นาสะ ฮาทาโอกะ ยูกะ ซาโสะ จากฟิลิปปินส์ ซึ่งปัจจุบันเล่นในนามญี่ปุ่น ก็คว้าแชมป์เมเจอร์ หรือ นักกอล์ฟจากจีนมี หลิน ซีอวี้ ก็เป็นอีกหนึ่งการพัฒนาในวงการกอล์ฟของเอเชีย
และมอลลี ยังได้ย้ำอีกว่าแอลพีจเอ เป็นโกลบอล ทัวร์ ดังนั้นจึงหวังจะได้เห็นนักกอล์ฟที่ดีที่สุดในโลกเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง